คอลัมน์ผมวันนี้คัดลอกมาจากข่าวของสื่อออนไลน์หลายสำนักเมื่อสัก 2-3 วันที่ผ่านมานี้เอง เป็นเรื่องของคนใจบุญใจกุศลคนหนึ่งที่ผมเคยเขียนถึงมาบ้างแล้วในคอลัมน์นี้
“นายเงี๊ยบ” หรือนาย สมชาติ สาลีพัฒนา เจ้าของร้าน “ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ” สาขาพุทธมณฑลสาย 4 ที่นักชิมทั้งหลายรู้จักเป็นอย่างดีนั่นแหละครับ
ร้านก๋วยเตี๋ยวปลานายเงี๊ยบต้นตำรับดั้งเดิมอยู่ที่ ศาลเจ้าพ่อเสือ กรุงเทพฯ ต่อมาย้ายไปที่ ย่านบางขุนนนท์ และไปโด่งดังมากที่นั่น จนเกิดปัญหาเรื่องที่จอดรถและร้านเล็กเกินไปไม่พอรองรับลูกค้า จึงต้องโยกย้ายอีกหนไปอยู่ที่ ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ในปัจจุบัน
เรื่องราวของ นายเงี๊ยบ หรือ คุณสมชาติ ที่ผมเคยเขียนถึง นอกจากการแนะนำลูกชิ้นปลารสอร่อยมากของเขาแล้วก็ยังเน้นถึงเรื่องความ “จงรักภักดี” และความใจบุญสุนทานของเขาควบคู่ไปด้วย
ท่านผู้อ่านคงจำได้ในรัชสมัยของ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 นั้น เรามีวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ของทุกๆ ปี เป็นวันรวมใจของคนไทยทั้งชาติ ซึ่งจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองต่างๆ
คุณสมชาติก็จะเข้าร่วมในการเฉลิมฉลองด้วย…โดยการเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาให้กินฟรีตลอดทั้งวัน จนกว่าก๋วยเตี๋ยวจะหมดร้าน
คุณสมชาติเคยให้สัมภาษณ์ว่า แรงบันดาลใจที่ทำให้เขาเปิดร้านให้ประชาชนกินฟรีทุกๆ วันที่ “5 ธันวามหาราช” ก็ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยที่บรรพบุรุษของเขา “หนีร้อน” จากประเทศจีนในอดีตยุคโน้นเข้ามา “พึ่งเย็น” ในพระบรมโพธิสมภาร จนประสบความสุขความเจริญมาจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานในปัจจุบันนี้
ทางใดที่เขาจะตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยได้บ้าง…เขาและครอบครัวก็พร้อมที่จะดำเนินการ
เป็นที่มาของการเปิดร้านให้ประชาชนกินฟรีถึงกว่า 40 ปีติดต่อกันในรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9
ต่อมาในรัชสมัย พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน นายเงี๊ยบก็ยังคงเปิดบริการให้กินฟรีในวันเฉลิมพระชนมพรรษาอย่างต่อเนื่อง โดยเปลี่ยนจากวันที่ 5 ธันวาคมมาเป็นวันที่ 28 กรกฎาคม และได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 50 ติดต่อกันเมื่อ 28 กรกฎาคม 2562
สำหรับในปี 2563 หรือปีที่แล้ว ตรงกับภาวะโควิด-19 ระบาดรอบแรก ร้านอาหารไม่สามารถเปิดได้เต็มที่ นายเงี๊ยบจึงได้งดไป แต่ก็ยังคงไปทำกุศลในด้านอื่นๆ เช่น บริจาคเงินให้แก่โรงพยาบาลศิริราชเพื่อสมทบทุนในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 รวม 1 ล้านบาท เป็นต้น
ที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อออนไลน์ล่าสุดจนผมต้องหยิบมาเขียนถึงในวันนี้ก็เป็นเรื่องใจบุญใจกุศลของนายเงี๊ยบอีกเช่นกัน
จากการที่เขาได้ควักเงิน 1 ล้าน 2 แสนบาท ซื้อเครื่องช่วยหายใจมอบให้แก่ โรงพยาบาลนครปฐม สำหรับนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ณ โรงพยาบาลนครปฐม โดยมีท่านผู้ว่าราชการจังหวัด สุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ มารับมอบถึงร้าน
นายเงี๊ยบให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวยืนยันถึงปณิธานดั้งเดิมที่เขายึดมั่นมาตลอดชีวิตของเขาว่าทุก 1 ชามก๋วยเตี๋ยวที่ขายได้เขาจะกันเงินไว้จำนวนหนึ่งสำหรับทำบุญ ในปณิธานที่เขาเรียกว่า “1 ชาม 1 บุญ” นั่นเอง
ในช่วงเวลาที่ประชาชนประสบความทุกข์ยากจากภาวะโควิด-19 แม้ร้านของเขาจะได้รับผลกระทบอย่างมาก แต่เขาก็เคยขายดีมีเงินส่วนกำไรที่เก็บไว้สำหรับจะทำบุญอยู่แล้ว…จึงตัดสินใจนำออกมาใช้
ผมก็ขอขอบคุณเฮียเงี๊ยบแทนพี่น้องชาวนครปฐมไว้ ณ ที่นี้ พร้อมกับขออนุญาตถ่ายทอดเรื่องราวของเฮียสู่ท่านผู้อ่านเพื่อเป็นตัวอย่าง และเป็นขวัญกำลังใจแก่คนไทยอื่นๆ ที่คงต้องการอ่านหรือฟังเรื่องดีๆ บ้าง ในท่ามกลางเรื่องราวและข่าวคราวอันสับสนอลหม่านตลอดจนข่าว “เฟกนิวส์” สารพัดในขณะนี้
ป.ล. เห็นป้าย “มิชลิน 2021” อยู่ด้านหลังรูปถ่าย ขณะอาเฮียกำลังมอบเครื่องช่วยหายใจแก่ท่านผู้ว่าฯ ด้วย ทำให้นึกได้ว่า “ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ” ของเฮียเพิ่งได้รับป้ายประกาศเป็นร้าน บิบ กูร์มองต์ ร้านอาหารอร่อยคุ้มค่า ในราคาย่อมเยา ในกลุ่มร้านอาหารริมทางจาก “มิชลิน” เจ้าตำรับชวนชิมระดับโลกเมื่อไม่กี่วันนี่เอง
ดีใจด้วยนะครับเฮีย…นี่แหละที่โบราณเขาบอกว่า “ทุกครั้งที่เราให้ในสิ่งดีๆ เราก็มักจะได้รับอะไรดีๆ เป็นผลตอบแทนกลับมาเสมอๆ”.
“ซูม”