ยินดี อังกฤษ+สหรัฐฯ แต่อย่าลืม “สงครามยังไม่จบ”

นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป แฟนลูกหนังพรีเมียร์ลีกที่อังกฤษจะมีโอกาสกลับเข้าไปดูไปเชียร์ทีมรักของตนในสนามได้อีกครั้ง หลังจากต้องเตะแบบสนามโล่งๆ มาตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 2

โดยรัฐบาลอังกฤษจะผ่อนปรนให้คนดูเข้าไปดูการแข่งขันกีฬาในสนามกลางแจ้งได้ 25 เปอร์เซ็นต์ของความจุสนาม แต่หากสนามใดตัวเลข 25 เปอร์เซ็นต์ออกมาแล้วเกิน 10,000 คน ก็ให้เข้าดูได้ที่ไม่เกิน 10,000 คน

เรียกเสียงเฮฮาจากแฟนฟุตบอลได้ทั่วประเทศ แม้การแข่งขันใกล้จะจบฤดูกาลแล้ว เหลือแข่งอีกเพียงทีมละ 2-3 ครั้งเท่านั้น

กีฬาอื่นๆ ก็ได้รับการผ่อนปรนไปด้วยเช่นกัน ให้มีคนดู 25 เปอร์เซ็นต์บ้าง 50 เปอร์เซ็นต์บ้าง สุดแล้วแต่ประเภทกีฬา และสนามแข่งขัน

นอกจากกีฬาแล้วในถ้อยแถลงของท่านนายกฯ อังกฤษ บอริส จอห์นสัน ยังระบุด้วยว่าผับ บาร์ ร้านอาหาร จะเริ่มให้บริการได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่จะถึง ตามมาด้วยโรงหนัง โรงละครต่างๆ ส่วนงานเลี้ยง งานแต่งงาน งานศพ ให้มีผู้ร่วมงานได้ 30 คน

มีอยู่ข้อหนึ่งที่อ่านแล้วก็ยิ้มแทนคนอังกฤษ…เมื่อทางการอังกฤษยอมให้ผู้คนกลับมาสวมกอดกันได้ขณะทักทาย
ทั้งหมดนี้เป็นผลพวงมาจากการที่สหราชอาณาจักรฉีดวัคซีนเข็มแรก ให้แก่ประชาชนของเขาไปแล้วถึง 35 ล้านราย และครบเข็มสองรวมทั้งสิ้นกว่า 17 ล้านราย

ส่งผลให้ล่าสุด สหราชอาณาจักร (รวมอังกฤษด้วย) มีผู้ติดเชื้อใหม่ แค่วันละ 2,000 กว่ารายในช่วงหลังๆ จากที่เคยติดสูงเกิน 10,000 อยู่พักใหญ่ๆ และยอดเสียชีวิตเมื่อวานนี้ก็แค่ 4 รายเท่านั้นเอง

ขอแสดงความยินดีกับคนอังกฤษและทุกๆ คนในสหราชอาณาจักรด้วยครับ ที่กำลังจะเข้าสู่ภาวะ “ฟ้าหลังฝน”…หลังจากที่เหนื่อยยากมานานมาก จนมีผู้ติดเชื้อสะสม 4 ล้าน 4 แสนเศษ และยอดเสียชีวิตสะสมทั้งสิ้นถึง 1 แสน 2 หมื่น 7 พันกว่าราย

เหตุที่สหรัฐอเมริกาก็ดูดีขึ้นมาก ดังอย่างที่เราได้ยินข่าวคราวว่าหลายรัฐเริ่มถอดหน้ากากกันแล้ว ร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ กลับมาเปิดให้บริการกันเป็นส่วนใหญ่แล้ว

นั่นก็เป็นผลมาจากการเร่งระดมฉีดวัคซีนที่ตัวเลขล่าสุดระบุว่าฉีดครบเข็มไปแล้วกว่า 111 ล้านคน หรือ 33.4 เปอร์เซ็นต์ของประชากรสหรัฐฯ และฉีดเข็มแรกไปถึง 150 ล้านคน หรือ 45 เปอร์เซ็นต์

รวมทั้งคาดหวังว่าจะฉีดให้ได้ 70 เปอร์เซ็นต์ สำหรับโดสแรกภายในวันที่ 4 กรกฎาคม หรือวันชาติสหรัฐฯ ที่ใกล้จะมาถึง

ทำให้ยอดติดเชื้อใหม่ล่าสุดของสหรัฐฯ เหลือวันละ 30,000 กว่า และเสียชีวิตเฉลี่ยล่าสุดก็ 300 กว่าๆเท่านั้น
ก็ขอแสดงความยินดีกับสหรัฐฯเช่นกัน ที่กำลังเข้าสู่ภาวะ “ฟ้าหลังฝน”…หลังจากในช่วงที่พายุฝนโควิด-19 กระหน่ำหนักใส่พวกเขานั้น ยอดติดเชื้อสะสมสูงสุดในโลกถึง 33 ล้าน 5 แสนเศษ และเสียชีวิตก็สูงสุดในโลกถึง 5 แสน 9 หมื่นกว่าราย

แต่ก็อย่าเพิ่งชะล่าใจไปนะครับ ทั้ง 2 ประเทศที่ผมแสดงความยินดีวันนี้เพราะ “สงครามยังไม่จบ ห้ามนับศพทหาร” เด็ดขาด และขณะนี้ในทั้ง 2 ประเทศก็ยังมีคนติดเชื้อใหม่อยู่วันละจำนวนไม่น้อย

ที่ต้องระวังก็คือสายพันธุ์ใหม่จาก อินเดีย B.1.617 น่ากลัวมาก อาจระบาดไปถึงและยังไม่แน่ใจว่าวัคซีนที่ฉีดไว้แล้วนั้นจะป้องกันได้หรือไม่?

สำหรับบ้านเรานั้น…จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ยังสูงเฉียดๆ 2 พันต่อวันต่อไป ยอดผู้เสียชีวิตขณะที่เขียนต้นฉบับสูงถึง 31 ราย ทำให้ยอดสะสมผู้เสียชีวิตล่าสุดขยับขึ้นไปที่ 452 รายแล้ว

หากไปเทียบกับประเทศอื่นๆ รวมทั้ง 2 ประเทศ “ฟ้าหลังฝน” ที่เอ่ยถึงในวันนี้ ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตของเรายังน้อยกว่าเขาเยอะ…แต่เราคงไม่เปรียบเทียบกับใครทั้งนั้นนอกจากตัวเราเอง

เราถือว่าเรายังอยู่ในภาวะวิกฤติ ยังมีความจำเป็นที่จะร่วมแรงร่วมใจกันสู้ต่อไป ซึ่งภาพที่ปรากฏวันนี้เรายังรวมกำลังกันสู้อย่างไม่ย่อท้อ

อาจมีเสียงบ่นเสียงตะโกนโหวกเหวก หรือเสียงตำหนิโน่นนี่บ้างก็ปล่อยไปเถอะ เพราะเป็นเสียงส่วนน้อยเท่านั้น

ตราบใดที่ส่วนใหญ่ยังผนึกกำลังกันต่อไป เดินหน้าสู้ต่อไป…อะไรผิดอะไรพลาดบ้างก็แก้ไขไป…เดี๋ยว “ฟ้าหลังฝน” อันงดงามก็จะมาถึงเราเช่นกันละครับ.

“ซูม”

ข่าว, โควิด 19, อังกฤษ, พรีเมียร์ลีก, ยอดผู้ติดเชื้อ, หน้ากากอนามัย, ซูมซอกแซก