“โตเกียวโอลิมปิก” เดินหน้า “23 กรกฎา” จัดแข่งแน่นอน

เป็นข่าวเกรียวกราวไปแล้วทั่วโลก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมานี้เอง เมื่อทีม ฟุตบอลหญิงทีมชาติญี่ปุ่นชุดแชมป์โลกปี 2011 ได้ยกขบวนออกมาวิ่งคบเพลิงโอลิมปิก 2020 ที่เริ่มต้นจากจังหวัดฟุกุชิมะเป็นที่เรียบร้อย

จากนั้นพวกเธอก็จะส่งต่อคบเพลิงให้แก่นักวิ่ง อื่นๆรับช่วงต่อไป รวมทั้งสิ้น 121 วัน ผ่าน 47 จังหวัด ก่อนเข้าสู่โตเกียวเพื่อนำไปจุด ณ กระถาง ในพิธีเปิด ในสนามกีฬาแห่งชาติ วันที่ 23 กรกฎาคม 2564

นับจากวันที่จ่าแฉ่งเขียนต้นฉบับวันนี้บ่ายๆ วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม ก็เหลือแค่อีก 119 วัน และถ้า นับจากวันที่ท่านผู้อ่านนั่งอ่านคอลัมน์นี้ในไทยรัฐ ก็จะเหลือแค่ 118 วัน หรือ 117 วันเท่านั้นเอง อดใจรอ อีกแผล็บเดียวเท่านั้น

ต้องขอชื่นชมและปรบมือให้แก่คณะกรรมการ จัดงานโตเกียวโอลิมปิก ตลอดจนเมืองโตเกียวและ รัฐบาลญี่ปุ่นอีกครั้งหนึ่งที่ตัดสินใจจัดการแข่งขัน ตามกำหนดที่วางไว้ โดยไม่เลื่อนต่อไปอีก

หลังจากที่ต้องเลื่อนมาหนึ่งปีเต็มๆ เพราะจะ ต้องจัดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2020 โน่นแล้ว แต่เพราะโควิด-19 ทำพิษ ทำให้ต้องเลื่อนมาปีนี้

เลื่อนแล้วแต่ก็หนีไม่พ้นเพราะโควิด-19 ยังคงระบาดอยู่ มีระลอก 2 ระลอก 3 แล้วในหลายๆ ประเทศ รวมทั้งญี่ปุ่นเอง ซึ่งดูจะหนักกว่าปีกลายด้วยซ้ำ

แต่ในที่สุดญี่ปุ่นก็ตัดสินใจเดินหน้าต่อ ประกาศ จัดการแข่งขันโอลิมปิกในแบบนิวนอร์มอลคือจำกัดคนดู…แถมล่าสุดยังประกาศห้ามคนต่างประเทศ เดินทางไปดูเสียด้วย ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย

เป็นเหตุให้จะต้องคืนตั๋วแก่แฟนกีฬาโอลิมปิกจากต่างแดนที่ซื้อไปแล้วล่วงหน้าถึงกว่า 600,000 ใบ ในการเข้าดูชมกีฬาต่างๆ จะทำให้ขาดทุน หรือสูญเงินไปอีก 43,000 ล้านบาท เป็นอย่างน้อย

ก่อนหน้านี้ก็มีการประมาณการเอาไว้แล้วว่า ถ้าจัดแบบไม่มีคนดูเลยทุกสนาม จะมีผลกระทบต่อการสูญเสียทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 23,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 690,000 ล้านบาท สำหรับระบบเศรษฐกิจญี่ปุ่นทั้งหมด

ต่อมา เมื่อรัฐบาลอาจยอมให้มีคนดูบ้างแบบ จำกัดจำนวน ก็อาจทำให้มีรายได้เข้ามาส่วนหนึ่ง ทั้งจากค่าตั๋วและค่าใช้จ่ายเมื่อนำมาใช้ในโตเกียว

จะทำให้ความสูญเสียทางเศรษฐกิจลดลงไป หรือไม่ คงต้องติดตามต่อไป

ประเด็นที่คณะกรรมการจัดการแข่งขันจะต้องตัดสินใจก็คือ จะให้คนดูเข้าชมได้มากน้อย เท่าใด? และจะกำหนดมาตรการอะไรบ้าง

แต่ที่แน่ๆ มาตรการที่เคยพูดกันว่าจะอนุมัติเฉพาะคนดูที่ฉีดวัคซีนแล้วเท่านั้นคงใช้ไม่ได้ เพราะอัตราการฉีดวัคซีนในญี่ปุ่นยังค่อนข้างช้ามาก

ในส่วนของนักกีฬาที่จะเข้าแข่งขันนั้นเป็น ไฟต์บังคับอยู่แล้วว่าจะต้องฉีดวัคซีนทุกคน ซึ่งประธาน คณะกรรมการโอลิมปิกสากลเคยบอกว่า จีน พร้อม จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ โดยมอบวัคซีนสำหรับฉีดให้ นักกีฬาโอลิมปิกและเจ้าหน้าที่อย่างเพียงพอ

คาดว่าจะมีนักกีฬาประมาณ 12,000 คนเข้าร่วมในโอลิมปิกครั้งนี้ เพื่อทำการแข่งขัน 324 รายการ ใน 33 ประเภทกีฬา

ท่านประธาน โธมัส บาค ยืนยันว่า แม้จะไม่มี คนดูในสนาม หรือมีดูในจำนวนน้อย และจะไม่มี กองเชียร์จากต่างประเทศ แต่เกมการแข่งขันและ รสชาติของการแข่งขันโอลิมปิกจะยังไม่เจือจางลง

เหมือนกับกีฬาทุกอย่างในโลกนี้ที่แข่งแบบ ไม่มีคนดู หรือคนดูน้อยมาก แต่ก็ยังสนุกเมื่อนั่งดู การถ่ายทอดทางโทรทัศน์
แน่นอน…นักกีฬาไทยของเราก็จะไป แข่งขันด้วย และในระยะหลังเราก็เคยได้เหรียญต่างๆ กันมาพอสมควร รวมทั้งเหรียญทอง

ปีนี้เราจะได้เหรียญอะไรกันบ้าง อย่าลืมลุ้น ด้วย…ขอให้สู้เต็มที่นะครับ นักกีฬาไทยทั้งหลาย เพราะถึงแม้โควิด-19 จะระบาด แต่รัฐบาลไทยไม่ได้ตัดเงินอัดฉีดแต่อย่างใด

เหรียญทองโอลิมปิกยังได้ 12 ล้านบาท เหรียญเงิน 7 ล้าน 2 แสนบาท และเหรียญทองแดง 4 ล้าน 8 แสนบาท…สู้สู้สู้ตาย

เหมือนเดิมนะครับนักกีฬาไทย.

“จ่าแฉ่ง”

ข่าว, การแข่งขัน, โอลิมปิก, ญี่ปุ่น, นักกีฬาไทย, เหรียญทอง, โตเกียว, ซูมซอกแซก