คนยุคเก่าตายเพราะ “ปาก” คนยุคใหม่ตายเพราะ “นิ้ว”

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เอง มีข่าวฮิตข่าวหนึ่งที่แชร์กันอย่างกว้างขวางในโซเชียลเกี่ยวกับดาราสาวคนหนึ่ง ซึ่งนอกจากเป็นดารา นักแสดงแล้วยังเป็นพิธีกรของรายการดังรายการหนึ่งในโทรทัศน์ช่องที่มีกำไรสูงสุดหลังทีวีทุกช่องปรับเข้าสู่ระบบดิจิทัล

เนื้อหาของข่าวที่แชร์กันเป็นลูกโซ่นั้นระบุว่า ดาราสาวคนดังกล่าวถูกปลดออกจากการเป็นพิธีกรเสียแล้ว ซึ่งชาวโซเชียลต่างก็เชื่อว่าสาเหตุมาจากการที่เธอชอบโพสต์ด่ารัฐบาล

ผมอ่านแค่หัวข่าวและรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ พอไม่ให้ตกข่าวเท่านั้น เผอิญผมไม่ค่อยดูละครทีวีจึงไม่รู้จักดารารุ่นใหม่ และผมก็ไม่ใช่แฟนของรายการที่ว่านี้จึงไม่รู้ว่าใครบ้างที่เป็นพิธีกร

แต่ที่หยิบเรื่องนี้มาเขียนถึงในวันนี้ก็เพื่อจะเตือนใจนักโพสต์ลงโซเชียลทั้งหลายว่า ตั้งแต่นี้ต่อไปจะโพสต์อะไรไม่ว่าจะเป็นรูปถ่าย หรือถ้อยคำพูดจาเห็นทีจะต้องระวังกันให้มากๆ

เพราะอาจจะเข้าทำนองพาดหัวคอลัมน์ผมวันนี้ที่ว่า “คนยุคเก่าตายเพราะปาก…คนยุคใหม่ตายเพราะนิ้ว” เอาได้ง่ายๆ

เหตุที่คนยุคเก่าตายเพราะปาก เพราะบางครั้งพูดอะไรโดยไม่ยั้งคิด ทำให้เกิดความเดือดร้อน หรือนำความเดือดร้อนมาสู่ตัวเอง เหมือนคำพังเพยที่ว่า “ปลาหมอตายเพราะปาก” นั่นเอง

เหตุที่เทียบกับปลาหมอ…ก็เพราะปลาหมอเป็นปลาที่ชอบโผล่ขึ้นมาเหนือนํ้าเพื่อหายใจ (ทางปาก) บ่อยกว่าปลาอื่นๆ

เดี๋ยวโผล่ๆ จนนํ้ากระเพื่อมไปหมด คนหาปลาที่เดินมาริมตลิ่งหรือริมบึงที่ปลาหมออยู่อาศัยก็รู้แกว ใช้แหทอด ใช้สวิงตักจับปลาหมอไปแกงกินได้คราวละมากๆ

กลายเป็นสำนวน “ปลาหมอตายเพราะปาก” สอนให้คนเรารู้จักคิด รู้จักระวังก่อนที่จะพูดจาอะไรออกไป

ทีนี้ก็มาพิจารณาถึงสำนวนที่ว่า “คนยุคใหม่ตายเพราะนิ้ว” บ้างว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร?

ก็มาจากเทคโนโลยีทันสมัยของยุคใหม่ที่เรียกกันว่ายุคสื่อสารออนไลน์หรือโซเชียลมีเดียนั่นแหละครับ

ต้องยอมรับว่ายุคนี้เป็นยุคที่โซเชียลมีเดียเฟื่องสุดๆ กลายเป็นสนามหรือเวทีที่มนุษย์ยุคใหม่ออกมาใช้เป็นที่แสดงตน แสดงความคิดความเห็น ตลอดจนความเคลื่อนไหวหรือกิจกรรมต่างๆ อย่างมากมาย และกว้างขวางที่สุด

อาจเป็นเพราะว่ามนุษย์เราเป็นสัตว์โลกที่ชอบ “แสดงออก” ชอบโชว์ ชอบวิจารณ์ ชอบติ ชอบด่า ฯลฯ อยู่ในสายเลือดมาแต่ดึกดำบรรพ์แล้ว แต่ยุคก่อนไม่มีสื่ออะไรที่จะให้ “แสดง” ได้อย่างกว้างเท่ายุคนี้

จึงพูดอยู่ในครอบครัว ในหมู่เพื่อน อย่างเก่งก็ผ่านหนังสือพิมพ์ ผ่านวิทยุ ผ่านโทรทัศน์ ซึ่งก็มีกรอบทำให้แสดงไม่ได้เต็มที่

พอมาถึงยุคออนไลน์พูดได้ไม่จำกัด วิจารณ์ได้ไม่จำกัด หยาบก็ไม่มีใครว่า ด่าก็ไม่มีใครท้วง…ก็เลยสนุกกันใหญ่ปล่อยกันเต็มสตีม

บางเรื่องไม่น่าเปิดเผย เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวที่สมควรเก็บไว้ แต่ก็เปิดเผยกันออกมาเยอะ เพราะความอยากแสดงออก

ไปจนถึงการอวดรวย อวดเก่ง อวดอุตริ ฯลฯ สารพัด

ลืมไปว่าที่เราโพสต์นั้นจะออกสู่สาธารณะทำให้คนอื่นเขารู้ไปด้วย หรือแม้บางคนจะแสดงในกลุ่มเฉพาะแต่ก็อาจมีคนในกลุ่มนั่นแหละเอาออกไปแชร์ให้สาธารณะรู้จนได้อยู่ดี

เผลอไปด่าใคร วิจารณ์ใครเข้าแผล็บเดียวคนอื่นๆ ก็รู้กันทั่ว หรือ ไปโอ้อวดว่าทำอย่างโน้นอย่างนี้มาได้ คนเขาก็บันทึกเอาไว้หมด วันดีคืนดีกลายเป็นหลักฐานมาทำร้ายเราเสียฉิบ

มีตัวอย่างเป็นข่าวมามากมาย รวมทั้ง “ดารา” คนที่ตกงานถูกปลดจาก “พิธีกร” เพราะไปเผลอวิจารณ์รัฐบาลแรงๆ เข้ารายนี้

ทีนี้การโพสต์ การแชร์อะไรต่างๆ ลงโซเชียลก็มาจาก “นิ้วมือ” ทั้งสิ้น…คือต้องพิมพ์ ต้องถ่าย ต้องเอามารวมกันแล้วก็ใช้นิ้วกดออกไป

เมื่อพลาดไปกดเรื่องไม่ควรกดจึงมีผลกระทบกลับมาถึงตัวเราถึงขั้นตกงาน หรือบางครั้งก็ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีร้ายๆ หรือบางครั้งก็โดนตำรวจสืบได้ว่าหมอนี่เป็นโจร เพราะโพสต์เผยร่องรอย ฯลฯ

ก็ฝากให้ระมัดระวังกันด้วยนะครับก่อนแชะ ก่อนแชร์ ก่อนกด ก่อนโพสต์ (ซึ่งใช้นิ้วทั้งสิ้น) โปรดรำลึกเสมอว่า

มนุษย์ (ยุคเก่า) ตายเพราะปาก…ฉันใด…มนุษย์ (ยุคใหม่) ก็อาจตายเพราะ “นิ้ว” ได้ฉันนั้น…เห็นหรือยังล่ะว่าปลายนิ้วของมนุษย์เราน่ะสำคัญมากขนาดไหน?

“ซูม”

ข่าว, โซเชี่ยล, ปลาหมอตายเพราะปาก, ดารา, โพสต์, ด่า, รัฐบาล, ซูมซอกแซก