กระทรวงสาธารณสุข แถลง สรุปเคสคนไทย 6 ราย ติดโควิด-19 มาจากเมียนมา

วันนี้ (2 ธันวาคม) กระทรวงสาธารณสุขแถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคโควิด-19 โดย นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ระบุว่า จากกรณีที่พบหญิงไทยหลายรายที่ไปทำงานในสถานบันเทิงในประเทศเมียนมาและลักลอบเดินทางกลับเข้ามาไทย แล้วปรากฏว่าติดโควิด-19 นั้น วันนี้จึงแถลงความคืบหน้าของเคสทั้งหมด ดังนี้

รายที่ 1 หญิงไทย อายุ 29 ปี เดินทางกลับจากเมียนมา พักรักษาตัวที่เชียงใหม่ มีผู้สัมผัสทั้งหมด 326 ราย และยังไม่พบผู้ติดเชื้อจากรายแรก

รายที่ 2 หญิงไทย อายุ 26 ปี เดินทางกลับจากเมียนมา พักรักษาตัวที่เชียงราย มีผู้สัมผัสทั้งหมด 6 ราย และเดินทางมาพร้อมกับ

รายที่ 3 หญิงไทย อายุ 23 ปี เดินทางมาพร้อมรายที่ 2 และเมื่อรู้ว่าเพื่อนติดโควิด-19 จึงเดินทางมาตรวจเช่นเดียวกัน

รายที่ 4 หญิงไทย อายุ 25 ปี ทำงานอยู่ในสถานบันเทิงเดียวกับ 3 รายก่อนหน้านี้ และเมื่อรู้ว่าเพื่อนร่วมงานติดโควิด-19 จึงเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผลปรากฏว่าติดโควิด-19 แต่ไม่มีอาการ โดยทั้ง 4 รายนี้ เคยแถลงข่าวมาแล้วก่อนหน้านี้

รายที่ 5 หญิงไทย อายุ 28 ปี ชาวพะเยา ทำงานอยู่ในสถานบันเทิงท่าขี้เหล็กในประเทศเมียนมาเช่นเดียวกัน โดยมีไทม์ไลน์การเดินทางดังต่อไปนี้

– 27 พฤศจิกายน เดินทางกลับมาจากเมียนมาโดยเส้นทางธรรมชาติ
– 28 พฤศจิกายน เพื่อนขับรถมอเตอร์ไซค์มาส่งที่ปากซอยโลตัสแม่สาย เหมาแท็กซี่สีแดง-ขาว จำทะเบียนไม่ได้ มาส่งที่เมืองเชียงราย โดยสวมหน้ากากอนามัยทั้งคู่
– 15.00 น. พักห้องเช่าของเพื่อนชั้น 2 ของตึกแถวหลังห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีเชียงราย อาศัยอยู่คนเดียว
– 21.00 น. ออกไปซื้ออาหารเย็นที่ร้านค้าในตัวเมืองเพื่อมากินที่ห้อง โดยสวมหน้ากากอนามัย
– 29 พฤศจิกายน ช่วงเช้าถึงบ่ายไม่ได้ออกจากห้องพัก ส่วนตอนเย็นแฟนขับรถยนต์ส่วนตัวจากจังหวัดพะเยามารับไปเที่ยวงานสิงห์ปาร์ค จังหวัดเชียงราย
– 20.00 น. จอดรถโซน C 26 นั่งรถสองแถวเข้างาน นั่งโต๊ะบริเวณลานเบียร์ ซึ่งซื้อเบียร์และอาหารไปรับประทาน ไม่ได้เข้าร่วมบริเวณหน้าเวที โดยสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้นตอนดื่มเบียร์
– 23.00 น. กลับเข้าห้องเช่าของเพื่อน นั่งดื่มเบียร์ต่อ
– 04.00 น. ออกไปพักโรงแรม Hop Inn ในตัวเมืองจังหวัดเชียงราย
– 30 พฤศจิกายน
– 12.00 น. ออกจากโรงแรม Hop Inn หลังจากนั้นรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารบริเวณข้างทาง แวะร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ปั๊ม ปตท. อำเภอแม่สรวย
– หลังจากนั้นเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้เส้นทางเชียงราย-เวียงป่าเป้า-แม่ขะจาน
– 17.00 น. เข้ารับการตรวจเชื้อที่โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่
– ต่อมาเดินทางกลับจังหวัดพะเยา โดยรถยนต์ส่วนตัวกับแฟน แวะปั๊ม ปตท. แม่ขะจาน เพื่อเข้าห้องน้ำ
– 24.00 น. เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลพะเยา
– 1 ธันวาคม รับแจ้งจากโรงพยาบาลเอกชน จังหวัดเชียงใหม่ ตรวจพบ SARS-CoV-2 หลังจากนั้นทีมสอบสวนโรค สสจ. พะเยา สอบสวนควบคุมโรค ผลตรวจที่โรงพยาบาลพะเยา ยืนยันตรวจพบเชื้อเช่นกัน

รายที่ 6 หญิงไทย อายุ 21 ปี ในกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนเริ่มมีอาการป่วยด้วยไข้ เจ็บคอ มีน้ำมูก และตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีไทม์ไลน์การเดินทาง ดังนี้

– 17-21 พฤศจิกายน ไปเที่ยวที่จีวันจี จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา พร้อมเพื่อนสนิทที่อาศัยอยู่จังหวัดพิจิตร
– 28 พฤศจิกายน
– 05.00 น. เดินทางเข้าประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
– 06.00 น. มีรถจักรยานยนต์รับจ้างมารับไปส่งโรงแรมที่พักในอำเภอแม่สาย ต่อมาเริ่มมีอาการไข้ เจ็บคอ และมีน้ำมูก หลังจากนั้นเรียกรถ Grab ไปส่งที่สนามบินเชียงราย
– 13.40 น. ขึ้นเครื่องบินไฟลต์ DD8717 ลงสนามบินดอนเมือง
– 17.00 น. นั่งแท็กซี่จากสนามบินกลับที่พัก
– 29 พฤศจิกายน
– 16.30 น. ไปตรวจที่คลินิกแพทย์ และได้รับคำแนะนำให้ไปที่โรงพยาบาล
– 17.00 น. นั่งรถยนต์ส่วนตัวมากับแฟน เพื่อมาตรวจที่โรงพยาบาลเอกชน ผลตรวจพบเชื้อ SAR-CoV-2

รายที่ 7 หญิงไทย อายุ 25 ปี ที่จังหวัดพิจิตร ไม่มีอาการป่วย ตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม โดยมีไทม์ไลน์การเดินทางดังต่อไปนี้
– 17-27 พฤศจิกายน ไปเที่ยวสถานบันเทิงจีวันจี ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา พร้อมเพื่อนสนิทที่อาศัยอยู่กรุงเทพมหานคร
– 28 พฤศจิกายน เวลา 05.00 น. เดินทางเข้ามาประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
– 06.00 น. มีรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างมารับไปส่งที่โรงแรมในที่พักอำเภอแม่สาย ต่อมาเริ่มมีไข้ เจ็บคอ น้ำมูก หลังจากนั้นเรียก Grab ไปส่งที่สนามบินเชียงราย
– 13.40 น. ขึ้นเครื่องบินไฟลต์ DD 8717 ลงสนามบินดอนเมือง
– 15.00 น. ต่อเครื่องบินไปลงสนามบินพิษณุโลก มีเพื่อนมารับจากสนามบินกลับจังหวัดพิจิตร โดยพักอาศัยกับเพื่อนที่มารับ และไปกินอาหารร้าน Bird Bar ในจังหวัดพิจิตรกับเพื่อน 4 คน โดยไม่สวมหน้ากากอนามัย
– 29 พฤศจิกายน ช่วงเช้ากินก๋วยเตี๋ยวที่หน้าปากซอยหอพัก ช่วงเย็นไปร้าน Bird Bar จังหวัดพิจิตร ต่อด้วยร้าน Crocodile Rock Pub จังหวัดพิจิตร
– 30 พฤศจิกายน ไปทำเล็บ ช่วงกลางวันสั่ง Grab มารับประทาน ช่วงเย็นไปร้าน Bird Bar จังหวัดพิจิตร ต่อด้วยร้าน Crocodile Rock Pub จังหวัดพิจิตร
– 1 ธันวาคม สสจ.พิจิตร เก็บตัวอย่างส่งตรวจ นำไปกักกันที่สถานกักกันโรคท้องถิ่น (Local Quarantine) ผลตรวจพบเชื้อ SAR-CoV-19

รายที่ 8 หญิงไทย อายุ 36 ปี ในจังหวัดราชบุรี เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน มีอาการไอ เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ มีน้ำมูก เสมหะ และปวดศีรษะ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมและตรวจพบเชื้อ SARS-CoV-2 สำหรับไทม์ไลน์การเดินทางมีดังต่อไปนี้

– 3-8 พฤศจิกายน อยู่ประเทศเมียนมา มีประวัติไปเที่ยวสถานบันเทิงจีวันจี ใน จังหวัดท่าขี้เหล็ก
– 23-24 พฤศจิกายน ในงานเลี้ยงที่ท่าขี้เหล็ก ได้พบกับผู้ที่มีผลการตรวจพบเชื้อยืนยันรายก่อนหน้า แต่รายนี้ให้ประวัติว่าอยู่คนละกลุ่มและคนละห้อง แต่สังเกตว่าเพื่อนร่วมห้อง 1 รายเริ่มมีอาการไข้ หนาวสั่น ไอ มีน้ำมูก
– 26 พฤศจิกายน ตนเริ่มมีอาการป่วยและได้ซื้อยามารับประทานเอง
– 29 พฤศจิกายน เดินทางกลับไทยโดยช่องทางธรรมชาติ มีชาวเมียนมาเป็นผู้นำทาง
– หลังจากนั้นเดินทางจากชายแดนไปสนามบินเชียงใหม่ด้วยรถยนต์ของเพื่อนพร้อมแฟนของเพื่อน ทั้งคู่ไม่สวมหน้ากาก นั่งเครื่องบินจากเชียงใหม่สายการบิน Thai Lion Air
– เวลา 12.00 น. ถึงสนามบินดอนเมืองและใช้บริการแท็กซี่ไปยังสถานีขนส่งหมอชิต หลังจากนั้นใช้บริการรถตู้ไปลงที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีราชบุรี และใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้างต่อไป เพื่อตรวจรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน
– 1 ธันวาคม เพื่อนที่ไปร่วมงานเลี้ยงด้วยกันส่งข่าวผลตรวจว่าพบเชื้อ SARS-CoV-2 แพทย์จึงส่งตรวจหาเชื้อเช่นกัน หลังจากนั้นผู้ป่วยถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลราชบุรี
– 2 ธันวาคม ผลตรวจพบเชื้อ SAR-CoV-2 ที่โรงพยาบาลราชบุรี ส่งตรวจยืนยันผลที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 5 สมุทรสงคราม หลังจากนั้นทีมสอบสวนโรค โรงพยาบาลราชบุรี ดำเนินการสอบสวนและควบคุมโรคทันที

รายที่ 9-10 หญิงไทย อายุ 23 และ 25 ปี ในจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อมีข่าวพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่มาจากสถานบันเทิงจีวันจี ท่าขี้เหล็ก เมียนมา ที่ตนทำงานอยู่ร่วมกัน จึงเข้ามารับการตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน เดินทางกลับเข้าประเทศไทย พร้อมเพื่อนรวม 3 ราย และค้างที่บ้านเพื่อนในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และได้เดินทางกลับมาที่พักโดยให้ประวัติว่าอยู่ในที่พัก หลังจากนั้นได้ข่าวว่ามีผู้ติดเชื้อจากที่ทำงานเดียวกัน ทั้งคู่จึงเดินทางไปเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน

และในวันที่ 1 ธันวาคม ผลการตรวจพบเชื้อ โดยขณะนี้อยู่ในการดูแลของแพทย์ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนเพื่อนที่เดินทางมาด้วยกันอีก 1 รายไม่ติดเชื้อ แต่อยู่ในระหว่างการกักกันโรคเช่นเดียวกัน

“ในรายละเอียดของผู้ป่วย 3 รายล่าสุด ทีมสอบสวนโรคกำลังเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้ยังขาดข้อมูลบางส่วน แต่เพื่อให้ประชาชนรับทราบถึงความพยายามของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายปกครองและอื่นๆ ที่ดำเนินการสอบสวนและค้นหาผู้สัมผัสอย่างรวดเร็ว จะเห็นว่าเหตุการณ์นี้เริ่มต้นเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว ถึงขณะนี้ยังไม่ถึง 1 สัปดาห์ แต่มีการติดตามผู้สัมผัสที่มีอาการและไม่มีอาการเข้ารับการตรวจและอยู่ในระหว่างการกักกันโรคและรักษาพยาบาลแล้ว” นพ.โสภณ กล่าว

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่า กลุ่มเสี่ยงที่เกิดจากกรณีต่างๆ นั้นยังไม่มีผู้ใดติดจากเชื้อ ดังนั้นยังไม่มีเชื้อที่ติดกันในประเทศไทย เชื้อทั้งหมดถือว่าเป็นเชื้อนำเข้า ขอให้ประชาชนมั่นใจในการควบคุมโรคของกระทรวงสาธาธารณสุข

อ้างอิง : กระทรวงสาธารณสุข, The Standard

กระทรวงสาธารณสุข, ซูมซอกแซก, ติด, เมียนมา, โควิด 19