แม่ทัพเศรษฐกิจป้ายแดง “เลขาฯสภาพัฒน์” + “ผู้ว่า ธปท.”

ผมยังมี “ควันหลง” จากการไปนั่งรับประทานอาหารคํ่าพร้อมกับรับฟังการบรรยาย+การเสวนาเกี่ยวกับ “ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจไทยปี 2564” ที่ไทยรัฐกรุ๊ปจัดขึ้นที่โรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ลเมื่อวันพุธก่อน ที่อยากบันทึกไว้อีก 1 เรื่องครับ

เป็นเรื่องของความรู้สึกและความคิดเห็นที่ผมมีต่อแม่ทัพเศรษฐกิจ “คนใหม่” 2 ท่านที่ไปให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมรับฟังในฮอลล์ใหญ่ของโรงแรม และท่านผู้ฟังผู้ชมทางบ้านผ่านเฟซบุ๊ก และยูทูบ ของ ไทยรัฐทีวี

อันได้แก่ท่านผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย คุณ เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ และท่านเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คุณ ดนุชา พิชยนันท์ นั่นแหละครับ

ผมใช้คำว่า “แม่ทัพ” ด้านเศรษฐกิจก็เพราะตำแหน่งของท่านทั้ง 2 นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทิศทางการพัฒนาและบริหารเศรษฐกิจของประเทศไทยพอๆ กับแม่ทัพใหญ่น้อยทั้งหลายที่รับผิดชอบในการดูแลความมั่นคงของประเทศเลยทีเดียว

เท่าที่ผมนั่งฟังและติดตามไปด้วย รวมทั้งแอบให้คะแนนไปด้วยนั้น ผมให้ท่าน “สอบผ่าน” ทั้งคู่ครับ สำหรับแนวทางการมองปัญหาและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอันเนื่องมาจากโควิด-19 ที่เราเผชิญอยู่

สามารถที่จะรับตำแหน่งแม่ทัพในส่วนที่ท่านรับผิดชอบอยู่ได้อย่างแน่นอน

รายละเอียดทั้งหลายทั้งปวงของสิ่งที่ท่านบรรยายอยู่ในคลิป อยู่ในรายงานข่าวที่มีการบันทึกไว้ ทั้งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐและไทยรัฐทีวี ที่สามารถเข้ากูเกิลค้นหาได้อยู่แล้ว ผมก็จะขอผ่านไป

สิ่งที่ผมจะฝากไว้ก็เพียงว่า ผมขอเอาใจช่วย และขอให้กำลังใจ เพราะตระหนักดีว่างานที่ท่านกำลังแบกรับครั้งนี้ใหญ่หลวงมาก ขอให้อดทนขอให้กัดฟันสู้อย่างเต็มที่

ที่สำคัญที่สุด ขอให้ยึดมั่นในหลักการในหลักวิชาการและข้อมูลที่เป็นจริง และถูกต้องไว้

ไม่ว่าทิศทางลมการเมืองจะมาแบบไหน รุนแรงอย่างไร หากไม่เป็นไปตามหลักการ หลักวิชา หรือข้อมูลที่แท้จริงและถูกต้องแล้ว…ขอให้ ยืดอกสู้กับลมหรือพายุเหล่านั้นอย่าได้ท้อถอย

สำหรับท่านผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น แม้จะมีโอกาสพูดคุยกับท่านครั้งแรก แต่ก็ติดตามผลงานท่านมานาน ได้ยินชื่อเสียงของท่านตั้งแต่เมื่อครั้งถูกเรียกตัวกลับจากธนาคารโลกมาช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจไทยในยุค “ต้มยำกุ้ง” ปี 2540 มาแล้ว

ในการเสวนาของท่านจึงสะท้อนความเจ็บปวดและบาดแผลในปี 2540 ได้อย่างแท้จริงและตระหนักดีว่าปัญหาครั้งนี้กับครั้งนั้นต่างกัน และหนักกว่ากันค่อนข้างมาก

ผมชอบที่ท่านกล่าวว่า “สิ่งที่ผมจะทำและทำไปแล้ว บางเรื่องอาจไม่ถูกใจ แต่ถูกต้องอย่างแน่นอน…เราต้องทำอะไรที่ถูกต้องมากกว่าถูกใจ”

ในส่วนของท่านเลขาธิการสภาพัฒน์ คุณ ดนุชา พิชยนันท์ ผมมีเวลาคุยกับท่านยาวพอสมควรประสารุ่นพี่รุ่นน้องชาวสภาพัฒน์

ท่านผู้อ่านอาจแปลกใจ หากทราบว่าท่านเลขาธิการดนุชามิได้เรียนมาทางเศรษฐศาสตร์ เพราะในประวัติของท่านที่ค้นได้จากหลายๆ เว็บในกูเกิล ระบุว่าท่านจบ ปริญญาตรีด้านวิศวกรรมศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และไปจบปริญญาโท Master of Science in Engineering Management ที่มหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน สหรัฐฯ

ซึ่งเป็นเรื่องปกติของสภาพัฒน์ เพราะในกองที่ท่านเริ่มงาน อันได้แก่ กองที่ยุคก่อนเรียกว่า กองโครงสร้างพื้นฐาน นั้น จะต้องพิจารณาโครงการที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานใหญ่ๆ จำนวนมาก ต้องการผู้จบวิศวกรมาช่วยในการวิเคราะห์อยู่แล้ว

ในอดีตก็มีผู้เรียนจบทางวิศวฯมาทำงานและได้เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของสภาพัฒน์หลายๆ ท่าน

สภาพัฒน์ นั้นเหมือนมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ และเป็นมหาวิทยาลัยที่ลงมือปฏิบัติจริงด้วย…ใครจะจบวิชาไหนมา ในที่สุดก็จะเรียนรู้วิชาเศรษฐศาสตร์ไปด้วยในตัว

ผมฟังท่านเลขาฯ ดนุชา แถลงข่าวเรื่อง GDP เรื่องสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศไทยมาหลายครั้ง…ฟังแล้วก็สรุปได้ว่าท่านเป็นนักเศรษฐศาสตร์แน่นอนครับ อาจจะลืมวิชาวิศวกรรมไปแล้วก็ได้

สรุปผมขอถือโอกาสต้อนรับและแสดงความยินดีอย่างเป็นทางการแก่แม่ทัพเศรษฐกิจ “ป้ายแดง” ทั้ง 2 ท่านอีกครั้ง

ขอให้ชนะศึกอันใหญ่หลวงครั้งนี้นะครับ.

“ซูม”

ดินเนอร์ทอล์ก, เศรษฐกิจไทย, โควิด 19, ซูมซอกแซก