“เกาะปีก” มังกรบิน “ทางรอด” เศรษฐกิจไทยวันนี้

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบของโลกโดยเฉพาะที่ตลาดนิวยอร์กและลอนดอน ซึ่งลดไปวันละเหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลกว่า ก่อนหน้านี้กลับมาขึ้นอีกหน…โดยที่นิวยอร์กขึ้นกลับมา 77 เซ็นต์ต่อบาร์เรล และที่ลอนดอนขึ้น 73 เซ็นต์ต่อบาร์เรล

นักวิเคราะห์ให้เหตุผลว่า เป็นเพราะ “จีนชาติผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดในโลกได้นำเข้าน้ำมันดิบถึง 11.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนกันยายน หรือเพิ่มขึ้นถึง 5.5 จากเดือนสิงหาคมก่อนหน้าและเพิ่มถึง 17.5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว”

รายงานชิ้นนี้เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า เศรษฐกิจจีนกำลังดีขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้การบริโภคน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว

เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมานี้เอง ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า จีดีพีของจีนจะขยายตัวได้ 2 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ หลังจากดูข้อมูลล่าสุดมาถึงปัจจุบัน

เศรษฐกิจจีนกลับมาฟื้นตัวโดยมีอัตราบวกถึง 3.2 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสที่ 2 หลังจากทรุดฮวบลงไปถึง 6.8 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสแรก

จีนจึงกลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ประเทศแรกที่กลับมาฟื้นตัวเป็นบวก หลังการระบาดของโควิด-19 เมื่อโรงงานต่างๆ สามารถกลับมาเปิดได้ใหม่ และร้านค้าต่างๆ ก็กลับมาเปิดได้อย่างรวดเร็ว เมื่อรัฐบาลสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้

ในช่วงแรกๆ พบว่า กำลังซื้อที่ตกต่ำลงมากทำให้อัตราการบริโภคพลอยตกต่ำลงด้วย ซึ่งรัฐบาลก็ได้แก้ปัญหาด้วยการอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจลงไปก้อนใหญ่ ทำให้เมื่อผ่านกลางปีเศรษฐกิจจีนก็กลับกระเตื้องขึ้นทันตาเห็น

จนเป็นที่คาดหวังกันว่าในปีนี้จากที่ประมาณการว่าเศรษฐกิจจะติดลบหรือไม่ก็มีอัตราเพิ่มศูนย์อย่างดีที่สุด…กลับจะบวกได้ถึง 2 เปอร์เซ็นต์

มีคนเปรียบเปรยว่าประเทศจีนคือ “มังกรบิน” เพราะบินหรือเหาะเหินมาอย่างรวดเร็วมากทางด้านเศรษฐกิจ แต่มาปีกหักเพราะโควิด-19 ที่ระบาดขึ้นในประเทศตัวเอง…ทำให้เศรษฐกิจถดถอยลงไป

อย่างไรก็ตาม ณ นาทีนี้มังกรบินเริ่มกางปีกอีกครั้ง และเริ่มทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกหน แม้จะยังไม่ปรูดปราดเหมือนเก่า แต่ก็คาดว่าปีนี้จะบินได้ในอัตรา 2 เปอร์เซ็นต์ และปีหน้า (2021) จะบินขึ้นสูงไปอีก น่าจะบินได้ถึง 7.1 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ จากรายงานฉบับเดียวกัน

ทำให้มั่นใจได้ว่า มังกรจีน กลับมาติดปีกเริ่มบินได้อีกแล้วอย่างแน่นอน

เป็นที่มาของนโยบาย “เกาะปีกมังกรบิน” ที่ผมขออนุญาตเสนอแนะต่อรัฐบาลไทยของเราในวันนี้

นั่นคือทำอย่างไรเราจะสามารถแปลงตัวเป็น “ไร” แบบ คนธรรพ์ ในนิทานพื้นบ้านเรื่อง กากี ที่เราเคยอ่านกันมาในยุคก่อนๆ

เมื่อแปลงร่างเสร็จคนธรรพ์ซึ่งกลายเป็น “ไร” ตัวน้อยก็กระโดดเกาะปีก “พยาครุฑ” บินไปสู่วิมานของครุฑ ได้พบกับแม่นาง “กากี” ที่ถูกครุฑลักพาตัวไปซ่อนไว้ใน วิมานฉิมพลี ในที่สุด

เราก็คงต้องใช้วิชาคนธรรพ์แปลงร่างเป็นตัว “ไร” เกาะปีกมังกรให้จงได้ เพื่อที่เราจะโผบินผงาดขึ้นฟ้าได้เช่นเดียวกับพญามังกรนั่นเอง

วิชาคนธรรพ์ที่ว่านี้ก็คือ จะต้องหาทางติดต่อค้าขายและดำเนินธุรกิจกับจีนให้มากที่สุด สินค้าอะไรบ้างที่เราจะขายเขาได้ก็รีบผลิตรีบปลูกส่งไปขายเขาโดยไม่ชักช้า

การลงทุนอะไรบ้างที่เราอยากชวนเขามาลงก็ควรจะหาทางเชิญชวนให้เขามาลงโดยไม่ชักช้าเช่นกัน

เรื่องท่องเที่ยวหรือทัวร์จีนจะเปิดประตูอย่างไร? จะคัดเลือก กลุ่มทัวร์อย่างไร? ค่อยๆ เปิด ค่อยๆ แง้มไปทีละน้อย

ผมเชื่อว่าพ่อค้าเราเก่งครับ ป่านนี้คงจ้องหาลู่ทางใช้วิชาคนธรรพ์เตรียมเกาะปีกพญามังกรกันแล้วละ…ขอให้ภาคราชการสนับสนุนให้เต็มที่เถอะ รับรองไปโลดแน่ๆ

ป.ล.ผมเขียนต้นฉบับวันนี้ล่วงหน้าไว้ เพราะมีธุรกิจบางประการ…ก่อนขึ้นแท่น ทราบว่าสถานการณ์ “ม็อบ” ที่ถนนราชดำเนินเครียดมาก เพราะบางส่วนเคลื่อนไปถึงทำเนียบแล้ว…เพี้ยง! ขอให้จบลงด้วยดี และจบโดยเร็วด้วย…เราจะได้เริ่มใช้นโยบาย “เกาะปีกมังกรบิน” แก้ปัญหาเศรษฐกิจของเราได้อย่างทันเวลาน่ะครับ.

“ซูม”

เศรษฐกิจไทย, เศรษฐกิจจีน, จีดีพี, ซูมซอกแซก