เพลงแห่งความหลัง “ธรรมศาสตร์รักกัน”

พรุ่งนี้ 19 กันยายน 2563 ตรงกับวันเสาร์ ซึ่งตามหลักแล้วควรจะเป็นวันแห่งความสุข เพราะเป็นวันหยุด 1 ใน 2 วันประจำสัปดาห์ ที่คนไทยจะได้พักผ่อนหย่อนใจ หลังทำงานกันมา 5 วันเต็มๆ

แต่สำหรับวันเสาร์พรุ่งนี้ คงจะเป็นวันเสาร์ที่ไม่ปกติเท่าไรนัก และอาจไม่ใช่วันแห่งความสุขเหมือนอย่างที่เคยเป็น…เพราะมีข่าวโหมประโคมมาหลายสัปดาห์แล้วว่า วันเสาร์พรุ่งนี้จะมีการชุมนุมใหญ่ทางการเมืองที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

ประเด็นที่หลายๆ ฝ่ายห่วงใยก็คือ กลุ่มผู้ชุมนุมจะขอใช้พื้นที่ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นที่ชุมนุม แต่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยมีมติไม่อนุมัติ และจะปิดประตูมหาวิทยาลัยในวันดังกล่าว

ในขณะที่ผู้นำการชุมนุมก็ประกาศว่า หากมีการปิดประตู ก็จะตัดกุญแจเปิดประตูเข้าไปชุมนุมภายในมหาวิทยาลัยให้จงได้

นอกจากนี้ ผู้ชุมนุมก็แถลงด้วยว่า จะมีการเคลื่อนขบวนไปยื่นหนังสือเรียกร้องทวงอำนาจคืนให้แก่ราษฎร ที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย ทำให้ทางฝ่ายตำรวจ โดยเฉพาะตำรวจนครบาลต้องเตรียมพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อรับสถานการณ์อยู่ในขณะนี้

เหตุการณ์จะเป็นเช่นไร? คงต้องลุ้นกันในวันพรุ่งนี้ครับ

ผมเองในฐานะคนเขียนหนังสือบันทึกเหตุการณ์บ้านเมืองคนหนึ่ง…ขณะเดียวกันก็เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วย คงต้องขออนุญาตฝากความคิดเห็นเอาไว้บ้างก่อนที่เหตุการณ์ทั้งหลายทั้งปวงจะเกิดขึ้น

เท่าที่ผมเคยเขียนไว้ก่อนหน้านี้ ผมยืนอยู่ข้างผู้บริหารมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ครับว่า ไม่ควรเปิดประตู และนาทีนี้ก็ยังยืนข้างท่านอธิการบดีอยู่

แต่ผมก็เคารพข้อเรียกร้องของศิษย์เก่าธรรมศาสตร์หลายๆ ท่านที่มองในแง่จิตวิญญาณของธรรมศาสตร์ที่ยืนเคียงข้างระบอบประชาธิปไตยพรุ่งนี้ 19 กันยายน 2563 ตรงกับวันเสาร์ ซึ่งตามหลักแล้วควรจะเป็นวันแห่งความสุข เพราะเป็นวันหยุด 1 ใน 2 วันประจำสัปดาห์ ที่คนไทยจะได้พักผ่อนหย่อนใจ หลังทำงานกันมา 5 วันเต็มๆ แต่สำหรับวันเสาร์พรุ่งนี้ คงจะเป็นวันเสาร์ที่ไม่ปกติเท่าไรนัก และอาจไม่ใช่วันแห่งความสุขเหมือนอย่างที่เคยเป็น…เพราะมีข่าวโหมประโคมมาหลายสัปดาห์แล้วว่า วันเสาร์พรุ่งนี้จะมีการชุมนุมใหญ่ทางการเมืองที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์มาโดยตลอดและเห็นสมควรให้เปิดใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัย

ความเห็นที่แตกต่างเป็นวัฒนธรรมของธรรมศาสตร์มาทุกยุคทุกสมัย…เราจะถกเถียง เราจะโต้แย้งอย่างมีเหตุผลในสิ่งที่เราเชื่อ…ซึ่งไม่เหมือนกันอยู่บ่อยครั้ง เมื่อตอนที่พวกเราเป็นนักศึกษา

แต่ลงท้ายแล้วเราก็จะกอดคอกันเดินไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ้าอร่อยที่ท่าพระจันทร์ พร้อมกับร้องเพลง “ธรรมศาสตร์รักกัน”

เราจะไม่ยอมให้ความเห็นที่แตกต่างมาทำลายความเป็นธรรมศาสตร์ของเราอย่างเด็ดขาด

ผมหวังว่าศิษย์เก่าทั้งฝ่ายที่สนับสนุนให้เปิดประตูมหาวิทยาลัย และฝ่ายที่เห็นด้วยกับท่านอธิการบดีให้ปิดประตูมหาวิทยาลัยในวันพรุ่งนี้…จะยังคงรักกันตลอดไป

สำหรับผมเพิ่งไปงานเลี้ยงรุ่น “เศรษฐศาสตร์ 2503” มาครับ

ปี 2503 เป็นปีแรกที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ปิดตลาดวิชา ทุกคนที่เข้าเรียนจะต้อง “สอบเข้า” หรือ “เอ็นทรานซ์” ทำให้คณะเศรษฐศาสตร์ที่เคยรับนักศึกษาใหม่ปีละ 2,000 คน เหลือแค่ 200 คน

พวกเรา 200 คน มีชีวิตรอดมาถึงวันนี้น่าจะ 100 กว่าคนกระมัง แต่ก็ไปงานเลี้ยงรุ่นสัก 30 กว่าคนเห็นจะได้

เราเข้าเรียนธรรมศาสตร์เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2503 นับมาถึงปีนี้ 2563 เป็นเวลา 60 ปีกับอีก 2-3 เดือนโดยประมาณ

ขนาดอายุ วันเข้าเรียนยัง 60 ปีเข้าไปแล้ว อายุจริงๆ ของพวกเราจะแค่ไหน ก็ลองบวกลบกันเองนะครับ…

ศิษย์เก่าธรรมศาสตร์อายุปูนนี้ มาเจอกันส่วนใหญ่ก็ “ร้องเพลง” แหละครับ และที่ขาดไม่ได้ก็คือเพลง “โดมในดวงใจ”

แน่นอนเราคุยกันถึงวันที่ 19 กันยายนด้วย และก็แลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างสุขุมคัมภีรภาพตามประสาคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเฉียดๆ และเกินๆ 80 ฤดูก็มีบ้างแล้ว

ผมแอบทำโพลสอบถามความเห็นว่า ควรเปิดประตูหรือไม่เปิดประตูมหาวิทยาลัย (โดยเพื่อนๆ ไม่รู้ตัว) ปรากฏว่า ออกมาแบบก้ำกึ่งโดยฝ่ายที่บอกว่าควรเปิดชนะเล็กน้อย

แต่ที่เห็นตรงกัน 100 เปอร์เซ็นต์ก็คือ เพื่อนๆ ทุกคนหวังว่า ทุกๆ ฝ่ายไม่ว่าผู้ชุมนุม หรือเจ้าหน้าที่จะใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างถึงที่สุด

อย่าใช้ความรุนแรงโดยเด็ดขาดในทุกๆ กรณี

พวกเรา “โดมชรา” เศรษฐศาสตร์ 2503 หวังว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะจบลงด้วยดี และหวังด้วยว่าเพลง “ธรรมศาสตร์รักกัน” จะยังคงกึกก้องตลอดไป…ตราบกาลนิรันดร์ว่างั้นเถอะครับ.

“ซูม”

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ประชาธิปไตย, ชุมนุมใหญ่ทางการเมือง, ซูมซอกแซก