ลุ้น “ไทย” พิชิต “นิวซีแลนด์” ปลอดเชื้อ “โควิด” นานสุด

ผมเพิ่งจะเขียนเล่าให้ท่านผู้อ่านทราบว่า สำนักข่าวต่างประเทศเกือบทุกสำนักเพิ่งจะรายงานข่าวในเชิงปลาบปลื้มยินดีกับนิวซีแลนด์ที่สามารถควบคุมดูแลโควิด-19 อย่างยอดเยี่ยมจนไม่มีการติดเชื้อภายในประเทศ หรือการติดเชื้อในประเทศเท่ากับศูนย์ รวม 100 วันติดต่อกันไปในไทยรัฐฉบับเมื่อวานนี้เอง

พอส่งต้นฉบับไปตีพิมพ์ไม่ทันขึ้นแท่นเลยครับ ก็มีข่าวด่วนจี๋จากนิวซีแลนด์แจ้งมาว่า โควิด-19 กลับมาอาละวาดรอบใหม่ในนิวซีแลนด์แล้ว พบเชื้อใหม่ในประเทศ 4 ราย ในเมืองโอ๊กแลนด์ซึ่งเป็นเมืองใหญ่เมืองหนึ่งของดินแดนกีวี

ในวันที่ 102 พอดิบพอดีเป๊ะเลยครับ

ส่งผลให้รัฐบาลนิวซีแลนด์ต้องประกาศล็อกดาวน์เมืองโอ๊กแลนด์เพื่อสกัดกั้นการระบาดในทันทีเป็นเวลา 3 วัน

ทั้ง 4 รายที่ติดเชื้อใหม่ครั้งนี้ เป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกันและไม่มีประวัติในการเดินทางไปต่างประเทศที่ไหนทั้งสิ้น เป็นการยืนยันว่าการติดเชื้อที่ว่านี้เกิดขึ้นภายในประเทศโดยแท้จริง

สำหรับของประเทศไทยเรานั้น ในขณะที่ผมนั่งเขียนต้นฉบับเวลาประมาณบ่ายๆ ของวันพุธที่ 12 สิงหาคม ทาง ศบค.เพิ่งเผยแพร่ข้อมูลประจำวันออกมาว่า มีการติดเชื้อใหม่รวม 5 ราย จากสถานกักกันของรัฐทั้ง 5 ราย

นั่นก็หมายความว่า ไม่มีการติดเชื้อภายในประเทศไทยต่อเนื่องเป็นวันที่ 79 แล้วครับในวันนี้

จะประคองได้จนถึง 102 วัน เท่านิวซีแลนด์หรือไม่? หรือว่าจะทำสถิติดีกว่าเขา คือไร้เชื้อติดต่อกันในประเทศยาวนานกว่าเขา เกิน 102 วันไปอีกหลายๆ วันหรือไม่? คงจะต้องติดตามกันต่อไป

ผมเห็นด้วยกับความเห็นของคุณหมอผู้เชี่ยวชาญหลายๆ ท่านที่เตือนพวกเราอยู่เสมอว่า สถิติติดเชื้อในประเทศเป็น “0” นั้น สักวันหนึ่งก็จะต้องถูกลบ เพราะยังไงๆ ก็ต้องมีการระบาดใหม่แน่ๆ

ที่สำคัญหากมีการระบาดรอบใหม่ จะหันไปใช้วิธีปิดเมืองหยุดโน่นห้ามนี่อย่างรุนแรงเหมือนครั้งที่แล้วก็คงจะยากแล้ว

หลายๆ กิจกรรม หลายๆ ธุรกิจเพิ่งจะได้รับการผ่อนปรน ยังไม่ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วยซํ้าไป

จะไปปิดบ้านปิดเมืองขนาดใหญ่อีกหน เสียงคัดค้านต่อต้านคงจะดังกระหึ่มประเทศอย่างแน่นอน

เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือ คนไทยทุกๆ คนจะต้องระมัดระวังต่อไป โดยไม่ตกอยู่ในความประมาท เพื่อมิให้การระบาดใหม่เป็นไปอย่างรุนแรง

อาจไม่ถึงขั้นจะต้องยกมือตั้งการ์ดสูง ปิดหน้าปิดตาอย่างมิดชิดแทบไม่กระดิกตัวอะไรเลยแบบเมื่อตอนเกิดการระบาดรอบที่แล้ว

หันมาใช้สไตล์ของ สมรักษ์ คำสิงห์ เมื่อวันชิงเหรียญทองโอลิมปิก ที่จอร์เจีย เมื่อปี 1996 หลังจากที่ทำคะแนนนำคู่ต่อสู้เยอะแล้ว ก็ใช้วิธีลดการ์ดลงมาหน่อย เต้นไปเต้นมา หลอกล่อคู่ต่อสู้แบบผ่อนแรง

แต่สายตาจะชำเลืองไปที่หมัดคู่ต่อสู้ตลอดเวลา พออีกฝ่ายขว้างหมัดมา สมรักษ์ก็จะยกหมัดขึ้นปัดป้องเอาตัวรอดไปจนหมดยก

ผมก็หวังว่าคนไทยจะใช้วิธีแบบสมรักษ์นี่แหละครับ เพราะการตั้งการ์ด ยกการ์ด หรือการ์ดไม่ตกอยู่ตลอดเวลา ก็จะเครียดเกินไป หันมาชกแบบสบายๆ ลดการ์ดบ้าง เต้นไปเต้นมา ส่ายหน้าหลอกบ้าง แต่ห้ามประมาทเท่านั้นเอง

ความไม่ประมาทในที่นี้ก็คือ ยังต้องสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะอย่างเคร่งครัด หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ หรือเจลล้างมือหรือแอลกอฮอล์ล้างมือ และรักษาระยะห่างทางสังคม ไม่เข้าไปอยู่ที่แออัดหรือแน่นขนัดโดยไม่จำเป็น ฯลฯ

ขณะเดียวกัน การเต้นเหยาะๆ หรือส่ายหน้าไปมาก็คือ สัญลักษณ์ของการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่จะต้องมีความเคลื่อนไหว ความสนุก ความบันเทิงของผู้คนเข้ามาประกอบด้วย

ผมยังเชื่อว่าด้วยวิธีเช่นว่านี้ เราจะรับมือกับการระบาดระลอกใหม่ (ถ้าเกิดขึ้น) ได้อย่างแน่นอน ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ก่อนจบวันนี้ เรามาเล่นทายกันสนุกๆ โดยไม่มีรางวัลให้สักข้อดีไหมครับ…หรือจะเล่น (เดิมพัน) เขกเข่ากันบ้างก็ได้

ประเทศไทยจะติดเชื้อเป็น “ศูนย์” ในประเทศชนะนิวซีแลนด์ (102 วัน) ได้หรือไม่? วันนี้ของเรา 79 วันแล้ว อีกแค่ 23 วันเท่านั้น เราจะเสมอและถ้า 24 วัน เราก็จะชนะ…มาลุ้นกันเลยครับ.

“ซูม”

นิวซีแลนด์, โควิด-19, การติดเชื้อในประเทศ, ซูมซอกแซก