ผมเขียนต้นฉบับวันนี้เวลาประมาณเที่ยงเศษๆ ของวันเสาร์ที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา “ไทยรัฐออนไลน์” บนจอคอมพิวเตอร์ที่ผมเปิดเอาไว้เพื่อตรวจสอบข่าวขึ้นพาดหัวด่วนล่าสุดว่า “ไทยติดเชื้อสะสมเพิ่ม 1 ราย กลับจากต่างประเทศ”

แปลความตามพาดหัวได้ว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 20 มิ.ย. ไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศอีกเช่นเคย นับเป็นวันที่ 26 ติดต่อกัน และเมื่อต้นฉบับลงตีพิมพ์ในวันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2563 ก็จะเป็นวันที่ 28 พอดิบพอดีของการติดเชื้อในประเทศเป็น 0

อย่าลืมลุ้นกันด้วยนะครับ โดยลุ้นให้วันอาทิตย์ที่ 21 มิ.ย. คือเมื่อวานนี้ผู้ติดเชื้อในประเทศเป็น 0 ซะอีกหนึ่งวันก่อน แล้วก็มาลุ้นวันนี้ตอน 11.30 น. ว่ายังจะเป็น 0 อีกหรือเปล่า?

ถ้าเป็น 0 อีกในวันนี้ (รวมทั้งเมื่อวานด้วย) เราจะได้ส่งเสียงเฮ! กันให้ลั่นประเทศ เพราะจะครบ 28 วันตามเกณฑ์ที่คณะแพทย์ทั้งหลายเคยแถลงไว้ว่าเป็นระยะเวลาที่ยาวนานพอเพียงที่เราจะมั่นใจได้ว่าเราไม่มีเชื้อโควิด-19 อีกแล้วในประเทศไทย

โดยหลักท่านว่า 14 วันก็พอจะโอเคแล้วล่ะ แต่เพื่อจะให้ชัวร์ว่าจะมี “ความเสี่ยงตํ่า” ในการแพร่ระบาดซํ้า ก็ให้ใช้เวลา 2 เท่า คือ 28 วัน ซึ่งก็คือวันนี้นั่นเองเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา

ที่ผมจะส่งเสียงเฮและเชิญชวนท่านผู้อ่านให้เฮพร้อมๆ กันทั่วประเทศก็ด้วยเหตุนี้แหละครับ

แต่ถึงแม้ว่าประเทศเราจะปลอดจากการติดเชื้อภายในประเทศจนมีความเสี่ยงตํ่าอย่างว่าแล้วก็เถอะ ผมก็ยังมีความเห็นว่าเรายังประมาทไม่ได้นะครับ หรือถ้ากล่าวโดยใช้สำนวนที่ฮิตที่สุดในประเทศไทยขณะนี้ก็คือ “การ์ดอย่าตก” เป็นอันขาด

เหตุเพราะสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก ณ วันนี้ยังน่าห่วงมาก หลายๆ ประเทศยังคงระบาดอย่างหนัก และบางประเทศก็ดูเหมือนจะกลับมาระบาดรอบ 2 อีกแล้วด้วยซํ้า

สหรัฐอเมริกายังมีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นในวันนี้กว่า 3 หมื่นคน ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมทะลุ 2 ล้าน 3 แสนกว่าคนไปแล้ว ส่วนผู้เสียชีวิต ขณะที่บันทึกก็ยังสูงเกือบ 700 ราย รวมเป็นเสียชีวิตสะสมแล้ว 121,407 ราย เป็นอันดับ 1 ของโลกเช่นเดิม และน่าจะเป็นไปจนถึงวันสุดท้ายของการระบาดอย่างแน่นอน ไม่น่าจะมีประเทศไหนมาแซงได้อีกแล้ว

อีกประเทศที่ยังคงระบาดอย่างแรงก็คือ ประเทศ บราซิล นั่นแหละครับ วันนี้วันเดียวติดเชื้อใหม่ถึง 49,000 กว่าราย ทำให้ยอดสะสมทะลุหลักล้านไปเป็น 1 ล้าน กับ 3 หมื่นกว่ารายเรียบร้อย

ยอดผู้เสียชีวิตก็สูงกว่า 1,000 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตสะสมสูงถึง 49,090 ราย เฉียดครึ่งแสนเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ

เท่าที่ตรวจสอบตัวเลขอย่างคร่าวๆ ประเทศในละตินอเมริกายังหนักทุกประเทศครับ ไล่ตั้งแต่ เปรู, ชิลี ไปจนถึง เม็กซิโก ฯลฯ

แถบเอเชียเราก็ยังน่าห่วงมาก โดยเฉพาะ อินเดีย ซึ่งมียอดติดเชื้อ สะสมอันดับ 4 ของโลก ก็ยังติดเชื้อใหม่วันละเกิน 10,000 ราย ในขณะที่ ยอดผู้เสียชีวิตก็ขึ้นไปที่ 12,970 ราย เป็นอันดับที่ 8 ของโลกแล้ว ณ นาทีนี้

อิหร่าน เอย ซาอุดีอาระเบีย เอย บังกลาเทศ เอย ฯลฯ ก็ยังแรง ติดเชื้อใหม่วันละ 3-4 พันทุกวัน รวมทั้งอินโดนีเซียติดใหม่วันละ 1,000 กว่า เป็นอันดับ 1 ของ อาเซียน ไปเรียบร้อย

เห็นไหมครับว่าสถานการณ์โควิด-19 โลกยังไม่น่าไว้วางใจเลยจริงๆ ทั้งประเทศที่อยู่ไกลบ้านเรามาจนถึงประเทศใกล้ๆ เรา โดยเฉพาะในเอเชียและอาเซียนยังหนักหน่วงแทบทั้งสิ้น

ด้วยเหตุนี้ แม้เราจะปลอดเชื้อ 28 วันแล้ว (สมมติว่าเมื่อวานนี้หรือวันอาทิตย์ก็ปลอดด้วย) ควรจะสบายอกสบายใจได้แล้ว และควรจะคลี่คลายปลดล็อกกิจกรรมได้อีกหลายๆ กิจกรรมกันแล้ว

แต่ก็ขอให้ “ปลด” หรือ “คลาย” ด้วยความระมัดระวังก็แล้วกัน…ขอยืนยันอีกครั้งว่าผมเห็นด้วยกับการคลายทุกสิ่งอย่าง เพราะถ้าปล่อยนานกว่านี้ เศรษฐกิจจะพังยับลงไปอีก

ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ก็เพียงแค่จะเตือนว่าขอให้เราปลดล็อกกันอย่างระมัดระวังเท่านั้นเอง เพราะเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้แรงเกินคาด และพร้อมจะกลับมาระบาดได้ง่ายๆ ดังตัวอย่างในต่างประเทศ

ถ้าระบาดอีกรอบ รัฐบาลไทยเราจะไม่มีแรงปราบเอานะครับ เพราะมัวแต่วุ่นกับการจะปรับ ครม.กันอยู่ในขณะนี้.

“ซูม”