โครงการเงินกู้ 4 แสนล้านต้อง “คุ้มค่า” และไม่รั่วไหล

งบเงินกู้ตาม พ.ร.ก.กู้เงินสู้โควิด-19 มีการพูดถึงด้วยความห่วงใยมากที่สุด เห็นจะได้แก่งบในวงเงิน 400,000 ล้านบาท ที่เรียกกันว่างบเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่คณะรัฐมนตรีมอบให้ท่านเลขาธิการสภาพัฒน์ทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการที่จะใช้งบประมาณส่วนนี้นั่นแหละครับ

เนื่องจากในรายละเอียดจะมีบางแผนงานที่จะลงลึกไปถึงเศรษฐกิจฐานราก เศรษฐกิจชุมชน ฯลฯ และมีพื้นที่ปฏิบัติการอยู่ในตำบล หมู่บ้าน ของจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ

ผู้คนก็สงสัยกันว่า ท่าน ส.ส.ที่เป็นเจ้าของพื้นที่จะมีส่วน หรือมีเอี่ยว ในการเสนอโครงการมากน้อยแค่ไหน? มีบางคนมั่นใจว่าจะมีส่วนอย่างมากถึงขั้นเอามาตั้งข้อสังเกตแบบตีปลาหน้าไซว่ามีการแบ่งงบประมาณกันแล้วว่าใครจะได้โควตาไปเท่าไร?

ดังนั้น เมื่อท่าน เลขาธิการสภาพัฒน์ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ท่านออกมาแถลงถึงความคืบหน้าของการขอใช้เงินก้อนนี้เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว ผู้สื่อข่าวจึงถามถึงเรื่องของความโปร่งใสมากกว่าคำถามอื่นๆ

ก็ต้องบอกว่า รวดเร็วปานกามนิตหนุ่มจริงๆ สำหรับหน่วยงานที่จะใช้เงินทั้งหลาย เพราะท่านเลขาฯ เพิ่งแถลงถึงรายละเอียดและเงื่อนไขของการใช้เงินไปเมื่อ 2 มิถุนายนนี่เอง ปรากฏว่าถึงวันที่ 5 มิถุนายน มีหน่วยงานเสนอโครงการมาแล้วเกือบจะครบ 4 แสนล้านบาทอยู่รอมร่อ

โดยใน แผนงานที่ 3.1 ชื่อยาวหน่อยว่า แผนการพลิกฟื้นกิจกรรมเศรษฐกิจ เกษตรกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เกษตรเพิ่มมูลค่า เศรษฐกิจชีวภาพ การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพสูง เพื่อการพัฒนายั่งยืน มีการเสนอมา 91 โครงการ วงเงิน 220,000 ล้านบาท

แผนงานที่ 3.2 ว่าด้วย เศรษฐกิจฐานราก เศรษฐกิจชุมชน ด้านการเกษตรฯ การพัฒนาแหล่งนํ้าเพื่อชุมชน/การท่องเที่ยวชุมชน มีหน่วยงานเสนอโครงการมาแล้ว 28,331 โครงการ รวมงบประมาณ 372,532.65 ล้านบาท จาก 55 จังหวัด ผ่านจังหวัดบ้าง อำเภอบ้าง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบ้าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดบ้าง

ส่วนแผนงาน 3.3 ว่าด้วยการกระตุ้นการบริโภคและครัวเรือน อยู่ระหว่างการพิจารณาของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงการคลัง เพื่อดำเนินการโครงการคูปอง 3 พันล้าน เพื่อกระตุ้น “ไทยเที่ยวไทย” ดังที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้

ท่านเลขาธิการสภาพัฒน์ชี้แจงด้วยว่า โครงการส่วนใหญ่กำลังอยู่ในการพิจารณาของเจ้าหน้าที่สภาพัฒน์ ควบคู่ไปกับการรับฟังความคิดเห็น ของประชาชนในพื้นที่

ขณะนี้ท่านนำรายชื่อโครงการพร้อมรายละเอียดเข้าไว้ในเว็บไซต์ สภาพัฒน์ www.nesdc.go.th แล้ว ขอเชิญประชาชนเข้าดูโครงการ ในจังหวัด อำเภอ ตำบล ของท่านได้ และโปรดแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่

ท่านระบุด้วยว่า เมื่อดูขั้นต้นในช่วง 5-15 มิ.ย.แล้วเห็นว่าเข้าตามหลักเกณฑ์ ก็จะให้จังหวัดต่างๆนำไปเขียนโครงการฉบับเต็มเพื่อส่งมากลั่นกรองอีกครั้ง

ส่วนที่มีคำถามว่า ส.ส.ทั้งหลายจะเข้ามามีเอี่ยว หรือมามีส่วนร่วมด้วยนั้น ท่านเลขาธิการตอบนักข่าวว่า ท่านยังไม่ได้ยินข่าวในลักษณะนี้ ถ้ามีก็คงทำได้ยาก เพราะในทางปฏิบัติจะมีการเปิดเผยให้ประชาชนในพื้นที่และคนนอกทั่วๆ ไปเข้ามามีส่วนในการแสดงความคิดเห็นในทุกๆ โครงการอย่างเปิดเผยโดยตลอด

ผมฟังคำตอบท่านก็เบาใจไปเปลาะหนึ่ง แต่ก็อดเป็นห่วงเรื่องลูกไม้ หรือทีเด็ดที่คาดไม่ถึงของบรรดานักการเมืองเสียมิได้

ก็ขอให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา ช่วยกลั่นกรอง ช่วยแสดงความเห็นอย่างที่ท่านเลขาธิการท่านแจ้งถึงวิธีการดำเนินการด้วยละกัน

อีกประเด็นหนึ่ง ผมห่วงของผมเองเป็นส่วนตัวครับว่าโครงการที่คิดเร็วๆ เสนอเร็วๆ แม้จะโปร่งใสก็จริง แต่จะมีคุณค่าทางเศรษฐกิจ สังคม หรือจะใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริงแค่ไหน?

อย่าให้เป็นการตำนํ้าพริกละลายแม่นํ้าเป็นอันขาด ผมกลัวว่าจะสักแต่ทำโครงการกันมาเพื่อหาทางใช้เงินเท่านั้น…อย่าลืมว่าเงินก้อนนี้เป็นเงินกู้นะครับ จะต้องใช้หนี้ไปจนถึงลูกหลาน

โปรดดูแลเรื่องความคุ้มค่าของโครงการไว้ด้วย ถ้าใช้เงินหมดแล้ว เศรษฐกิจไม่ฟื้น รัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ได้ล่ะครับในอนาคต?

“ซูม”