ณ นาทีที่ “จ่าแฉ่ง” นั่งเขียนต้นฉบับวันนี้ ในช่วงบ่ายของวันศุกร์ที่ 27 มีนาคม 2563 สถานการณ์ระบาดของไวรัสมหาภัย “โควิด-19” ยังคงเป็นไปอย่างรุนแรงทั่วโลก

ยอดผู้ติดเชื้อทะลุครึ่งล้านไปแล้ว คือสูงถึง 529,132 ราย จาก 199 ประเทศ และเขตปกครองมีผู้เสียชีวิตแล้ว 23,967 ราย และรักษาหาย 123,380 ราย

หากพิจารณาเฉพาะประเทศที่มีการแข่งขันกีฬาที่อยู่ในความสนใจสูงสุดของแฟนกีฬาทั่วโลกอันได้แก่ สหรัฐอเมริกา และ 5 ประเทศหลักของยุโรปอันประกอบด้วย อิตาลี, สเปน, เยอรมัน, ฝรั่งเศส และ อังกฤษ แล้ว จะเห็นว่ายังหนักหนาสาหัสอยู่ทุกประเทศ

สหรัฐอเมริกา ที่มีแฟนๆ ติดตามบาสเกตบอล NBA ซึ่งผ่านครึ่งฤดูกาลมาแล้ว แต่ต้องยุติลงกลางคัน กลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด–19 อันดับ 1 ของโลกแซง จีน ไปในที่สุด

ยอดติดเชื้อของเมืองลุงแซมพรวดขึ้นเป็น 83,206 ราย แซง จีน ซึ่งตัวเลขหยุดอยู่ที่ 81,285 ราย ไปเรียบร้อยในวันนี้เอง หลังจากเพิ่มพรวดเดียววันเดียวถึง 14,995 ราย

ยังดีที่ยอดผู้เสียชีวิตของสหรัฐฯยังอยู่ที่ 1,201 ราย เป็นอันดับที่ 6 ของโลก แต่ก็ยังน่าห่วงเพราะมีป่วยขั้นวิกฤติอยู่อีกถึง 2,112 ราย

สำหรับ อิตาลี ที่แฟนๆ ติดตาม กัลโชซีรีเอ กันมากนั้น กลายเป็นอันดับ 1 ของโลกในแง่ผู้เสียชีวิตไปแล้ว คือเสียไปถึง 8,215 ราย จากยอดผู้ติดเชื้ออันดับ 3 ของโลก 80,589 ราย

ในขณะที่เขียน และก็ยังมีเคสใหม่เข้ามาเรื่อยๆ อย่างในวันนี้วันเดียวสูงถึง 6,203 ราย

สเปน เจ้าของฟุตบอล ลาลีกา สเปน ที่มีดาราดังมากมาย ก็ติดเชื้อเป็นอันดับ 4 ของโลกที่ 57,786 ราย เสียชีวิตเป็นอันดับ 2 ของโลกที่ 4,365 ราย และก็ยังติดเชื้อใหม่เพิ่มวันนี้อีก 8,271 ราย รวมทั้งเสียชีวิตวันเดียวสูงที่สุดถึง 718 ราย

เยอรมัน ที่ฟุตบอล บุนเดสลีกา กำลังเข้าไคล ก็ยังหนักเช่นกัน ติดเชื้อล่าสุด 43,938 ราย เป็นอันดับ 5 ของโลก แม้จะเสียชีวิตไม่มากเพียง 267 ราย แต่ยอดติดเชื้อใหม่วันนี้ยังพุ่งถึง 6,615 ราย เป็นอันดับ 2 ของยอดพุ่งประจำวันรองจากสเปนเท่านั้น

ฝรั่งเศส ที่เราตามลีกเอิง ก็ยังน่าห่วง ยอดติดเชื้อเป็นอันดับ 7 ของโลกอยู่ที่ 29,155 ราย เพิ่มพรวดวันเดียว 3,922 ราย เสียชีวิตแล้ว 1,696 ราย และวันนี้วันเดียวถึง 365 ราย

อังกฤษ ตัวเลขรวมอยู่กับสหราชอาณาจักร เป็นอันดับ 9 ของโลก 11,658 ราย แต่ก็มีผู้ติดเชื้อรายใหม่วันเดียวถึง 2,129 ราย เสียชีวิต 578 ราย โดยเสียวันนี้วันเดียว 115 ราย และเราคงทราบข่าวกันแล้วว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ก็ทรงติดเชื้อด้วย และทรงดูแลพระอาการอยู่ที่สกอตแลนด์

สรุปแล้วจะเห็นได้ว่าประเทศเจ้าของรายการกีฬายอดนิยม ล้วนยังสาหัส จะสามารถยุติการระบาดลงได้ ในเดือนเมษายนหรือไม่ ยังคาดเดายาก หรือหากหยุดได้ก็ต้องใช้เวลาพักฟื้น และป้องกันที่จะไม่ให้กลับมาระบาดใหม่

ไม่แน่ใจว่าเดือนพฤษภาคมการแข่งขันต่างๆ จะกลับมาได้อีกหรือไม่? อย่างไร?

สำหรับมหกรรมกีฬาใหญ่ๆ ที่สุดของโลกคือ โตเกียวโอลิมปิก นั้น ในที่สุดญี่ปุ่นก็ไม่สามารถฝืนกระแสโลกได้ ต้องจำใจเลื่อนไปจัดแข่งในปีหน้า เป็นที่เรียบร้อย

ส่วนฟุตบอลไทยลีกของเราข่าวล่าสุด คือเลือนไปเตะ 2 พ.ค. ซึ่งก็ไม่แน่ว่าจะได้เตะหรือเปล่า? ยังต้องลุ้นว่าผลการประกาศภาวะฉุกเฉินจะช่วยระงับการระบาดได้เพียงใด?

ถ้ายอดผู้ป่วยขยับสูงเป็นเรือนหลายพัน ในเดือนเมษายน และมีผู้เสียชีวิตเรือนร้อย เราจะจัดแข่งขันได้หรือ?

เช่นเคยครับ ไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกแล้ว นอกจากแฟนกีฬาชาวไทยจะต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” และเคารพกติกาของภาวะฉุกเฉินอย่างเคร่งครัด

พร้อมกับร่วมกันสวดมนต์ภาวนาให้ สถานการณ์อันเลวร้ายของไวรัสโควิด–19 ทั่วโลก คลี่คลาย เราจะได้ดูกีฬามันๆ กันอีกครั้งหนึ่ง.

“จ่าแฉ่ง”