ฮีโร่เศรษฐกิจป่วยเอง ใครจะ “เซฟ” เศรษฐกิจไทย?

ดูตามปฏิทินแล้ววันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2563) จะเป็นวันที่สองของการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยฝ่ายค้านและจะมีการอภิปรายไปจนถึงวันที่ 27 ก.พ. จึงจะมีการลงมติ

ถือเป็นครรลองของระบอบประชาธิปไตยก็ขอเชิญทั้ง 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลทำหน้าที่อย่างเต็มที่

สำหรับฝ่ายรัฐบาลนั้นผลจากการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคอนาคตใหม่ทำให้กรรมการบริหารพรรคที่เป็น ส.ส.ถูกตัดสิทธิทางการเมืองไปถึง 11 คน เสียงของพรรคฝ่ายค้านที่เคยสูสีจึงกลายเป็นค่อนข้างห่างยังไงๆรัฐบาลก็คงชนะพันเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว

ผมจึงขอถือโอกาสฝากรัฐบาลไว้ด้วยว่า ใครที่จะไปตอบไปชี้แจงในสภาก็ขอให้ทำหน้าที่ไป ส่วนใครที่ไม่โดนอภิปรายก็ขอให้ระดมสมองเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว อย่าได้หยุดนิ่ง

รีบเสนอ “ยาชุด” หรือ “แพ็กเกจ” ออกมาโดยเร็วที่สุด

เมื่อวานนี้ผมเขียนไว้แล้วว่าระยะทางพิสูจน์ม้ากาลเวลาพิสูจน์คน เศรษฐกิจชะลอตัวครั้งนี้จะพิสูจน์ “สมคิด” และ “อุตตม”

เมื่อวานเช่นกันผมเกริ่นไว้บ้างแล้วว่าพิษสงของเจ้าไวรัส-วายร้าย โควิด–19 รุนแรงกว่าที่คิดไว้ ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวไทยตายสนิทในนาทีนี้

ยกตัวอย่างธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะธุรกิจของที่ระลึกประเภทเพชรพลอยเครื่องประดับที่เคยขายดิบขายดีตกอยู่ในภาวะขายไม่ออก จนเพื่อนรุ่นน้องของผมต้องปิดศูนย์จำหน่ายของเขาไปถึง 3 แห่ง

เขียนถึงเพื่อนจนไปเปิดอ่านข่าวต่อก็พบข้อมูลจากสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สรุปว่า ไวรัสโควิด-19 ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหายไปถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เม็ดเงินหายไปจากระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยเฉลี่ยเดือนละเกือบๆ 5 หมื่นล้านบาท

หากสถานการณ์ยืดเยื้อไปถึงเดือนเมษายน จะทำให้กินเวลาทั้งสิ้น 3 เดือน เม็ดเงินจะหายไปถึงเกือบๆ 1 แสน 5 หมื่นล้านบาท

ธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงได้แก่ สายการบิน, ผู้ประกอบการรถบัส, รถตู้, บริการรถเช่า, โรงแรมที่พัก, สถานบันเทิง, บริษัทนำเที่ยว, มัคคุเทศก์, ร้านอาหาร, ร้านขายของที่ระลึก ฯลฯ

หากไวรัสยังคงยืดเยื้อต่อไปผลเสียหายก็จะยิ่งทวีมากขึ้น

เท่าที่ติดตามข่าวคราวทั่วโลกขณะนี้ โอกาสจะยืดเยื้อค่อนข้างสูงมาก เพราะสถานการณ์ในปัจจุบัน แม้จะมีข่าวว่าที่จีนเปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อในแต่ละวันเริ่มชะลอลงแล้ว

แต่ของญี่ปุ่นของเกาหลีกลับพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วไปไกลถึงอิตาลีถึงอิหร่าน ฯลฯ

ด้วยสถานการณ์แบบนี้แหละครับที่ทำให้ผมวิตกว่าอิทธิฤทธิ์ของไวรัสตัวนี้จะทอดยาวไปนานกว่าเดือนเมษายน

ส่งผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจการผลิตการค้าของโลก ในทุกๆ ด้าน เพราะโยงกันไปหมด

ผมเรียนแล้วว่า ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของไทยเราในอดีต อย่างน้อยก็ 2 ครั้ง ที่เราใช้ “การท่องเที่ยว” เป็น “พระเอก” ในการฟื้นฟูและประสบความสำเร็จอย่างงดงามยิ่ง

แต่โจทย์คราวนี้ไม่เหมือนคราวก่อน เพราะผู้ที่ล้มป่วยไปด้วย และดูเหมือนจะป่วยหนักกว่าธุรกิจอื่นๆเสียอีกก็คือ ฮีโร่ ในอดีตนั่นเอง

ทุกฝ่ายมีความเห็นตรงกันว่าต้องกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ สร้างแรงจูงใจไปจนถึงการชักชวนประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบให้คนไทยเที่ยวกันเองไปพลางก่อน เพื่อเยียวยาพระเอกเสียก่อนเป็นเบื้องแรก

ผมเห็นด้วยและก็ได้ร่วมในการชักชวนประชาสัมพันธ์มาตลอด แต่ก็อดหวั่นใจมิได้ว่า จะมีคนไทยเราสักกี่มากน้อยที่ยังเหลือเงินเก็บพอที่จะออกท่องเที่ยวกันได้บ้างในยามนี้

แต่ก็ต้องลองเสี่ยงกันดูครับใครมีเงินเที่ยว (มีเงินเองนะครับอย่าไปกู้เขา เดี๋ยวหนี้ครัวเรือนจะเพิ่มซะอีก) กรุณาเลือกที่เที่ยวเลยครับ

ที่ ไอคอนสยาม วันนี้กำลังมีงาน “ไทยเที่ยวไทยคือไทยเท่” มีแพ็กเกจท่องเที่ยวราคาถูกให้เลือกไปจนถึงวันที่ 1 มีนาคม และระหว่างวันที่ 5-8 มีนาคม ที่ฮอลล์ 103-105 ศูนย์ประชุม ไบเทคบางนา จะมีงาน “ไทยเที่ยวไทย” ครั้งที่ 54 ต่อผมขอถือโอกาสโฆษณาล่วงหน้าให้เลยครับ

ไปช่วยให้นํ้าเกลือ “พระเอก” กันหน่อยนะครับ เพื่อให้ “พระเอก” หรือ “ธุรกิจท่องเที่ยว” พออยู่ได้ และฟื้นคืนชีพกลับมาใหม่ใน 3-4 เดือนข้างหน้าหลังจากเจ้าไวรัสโควิด–19 สิ้นฤทธิ์ลงไป.

“ซูม”