ฝุ่นพิษตลบกรุงเทพฯ หนีไปอยู่เขตไหนดีเอ่ย?

เมื่อวันอังคารที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ข่าวและเรื่องราวท็อปฮิตที่มีการโพสต์มีการแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์มากที่สุดข่าวหนึ่ง ก็คือ ข่าวเกี่ยวกับคุณภาพอากาศในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่กลับมาเลวร้ายลงอีกครั้ง

เพื่อนผมรายหนึ่งส่งไลน์มาถึงผมว่า นายอ่านข่าวนี้หรือยัง เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจเขาบอกว่า “ฝุ่นพิษ PM 2.5 ของกรุงเทพฯ พุ่งติดอันดับที่ 6 เมืองคุณภาพแย่ที่สุดในโลก” แล้วว่ะ เมื่อตอน 9 โมงเศษๆ

และเพื่อเป็นการยืนยันว่าข่าวนี้ไม่ใช่ข่าวเฟกหรือข่าวปลอม เพื่อนก็อุตส่าห์แชร์ภาพที่แคปจากเว็บของกรุงเทพธุรกิจมาให้ดูด้วย

เป็นกราฟิกที่อ่านได้ชัดเจน โดยมีรูปธงชาติของประเทศนั้นประดับอยู่ข้างๆ เริ่มจากอันดับ 1 หรือแชมป์โลกอากาศแย่ ได้แก่ กรุงธากา ของบังกลาเทศ อันดับ 2 คือ นิวเดลี ประเทศอินเดีย ไปเรื่อยๆ จนถึง อันดับ 6 กรุงเทพฯ ประเทศไทย

นอกจากไลน์ที่ว่าแล้วในเฟซบุ๊กของกลุ่มเพื่อนๆ ผมก็ยังโพสต์ผลการวัดคุณภาพอากาศจากหน้าบ้านตัวเองมาให้ดูประกอบ

บ้านเพื่อนบางคนขึ้นไปกว่าหลักร้อย ซึ่งมีสัญลักษณ์เป็น “สีแสด” หรือ “สีส้ม” ที่แปลว่า “เริ่มมีผลกระทบแล้ว” บ่นอุบไปตามๆ กัน

สำหรับผมลูกๆ เขาโหลดแอปพลิเคชันของกรมควบคุมมลพิษไว้ให้ในโทรศัพท์มือถือ ก็เลยลองคลิกเข้าไปดู พบว่าข้อมูลเมื่อบ่ายโมงของวันอังคารที่ผ่านมา จากจุดวัด 71 จุด ใน กทม. และปริมณฑล

เป็น “สีส้ม” หรือเริ่มมีผลกระทบไปถึง 39 จุด หรือเกินกว่าครึ่งหนึ่ง โดยมี “สีเหลือง” ที่แปลว่า คุณภาพอากาศปานกลาง เพียง 31 จุด และมี “สีเขียว” ซึ่งแปลว่า “ดี” อยู่แค่จุดเดียว คือที่ เขตจอมทอง

สำหรับ “สีฟ้า” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคุณภาพอากาศ ดีมาก และปกติจะมีวันละหลายๆ จุด แต่เมื่อวันอังคารที่แล้วไม่มี แม้แต่จุดเดียว

ยังโชคดีที่ไม่มี “สีแดง” ซึ่งมีความหมายว่า คุณภาพแย่ ต้องระวังตัวกันอย่างเต็มที่ในเขตใดเขตหนึ่งของ กทม. ในช่วงนี้ แต่การมี “สีส้ม” มากๆ นี่ก็เสียวแล้วละครับ เพราะเข้าใกล้ “สีแดง” เข้าไปทุกขณะ

เมื่อ 2 วันก่อนนี่เอง กรมควบคุมมลพิษได้ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายๆ หน่วย สรุปผลการแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ว่า เจ้าฝุ่นพิษ PM2.5 จะอยู่ใน กทม.กับปริมณฑลอีกหลายวัน

เหตุเพราะในช่วงนี้ความกดอากาศรอบๆ กทม. ค่อนข้างต่ำ ในขณะที่ปริมาณรถยนต์ที่ออกไปต่างจังหวัดก่อนปีใหม่เริ่มกลับมา กทม. เต็มอัตราศึกแล้ว คาดว่าจะมีวิ่งไปวิ่งมาถึงวันละ 10 ล้านคัน

รถยนต์นี่แหละครับ ที่เป็นตัวการหรือแหล่งต้นกำเนิดฝุ่นพิษกว่าร้อยละ 75 ถ้างดหรือลดการใช้ลงได้ในช่วงนี้ โดยเฉพาะรถยนต์ส่วนตัวหันมาใช้รถสาธารณะแทน อาจจะช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่นพิษลงได้บ้าง

สำหรับต่างจังหวัดก็เตรียมตัวเผชิญได้ เพราะกำลังเข้าสู่หน้าแล้ง ซึ่งก็คงจะมีการเผาพืชไร่ต่างๆ ดังเช่นทุกปีที่ผ่านมา

การเผาในที่โล่งแจ้งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดฝุ่นพิษ PM2.5 ในต่างจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่มีการเผาพืชไร่และเผาป่ามากๆ จะเกิดมาก

ถึงเวลาแล้วที่ทางกระทรวงมหาดไทย จะต้องแจ้งให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการควบคุมดูแลพื้นที่ในจังหวัดตนเองอย่างเข้มข้นและเอาจริง เอาจัง โดยเฉพาะภาคเหนือซึ่งจะเกิดปรากฏการณ์เผาไหม้ต่างๆ มากที่สุด

ผมต้องขอบคุณกรมควบคุมมลพิษที่กรุณาออกข่าวเตือนทุกวัน โดยเฉพาะแอปฯ ของท่านมีประโยชน์มากทำให้รู้ว่าจุดไหน สถานการณ์เป็นอย่างไร? อยู่ในขั้นสีไหน?

บ้านผมที่แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิอยู่ในเกณฑ์สีฟ้า มีความสุขมาก ช่วงก่อนปีใหม่และวันปีใหม่จากนั้นก็ค่อยๆ ลดลงระดับมาสีเขียว ซึ่งก็ยังดีอยู่ แต่มาวันนี้ (ขณะเขียนต้นฉบับ) กลายเป็นสีเหลืองซะแล้ว

มีอยู่เขตหนึ่งที่เป็นแชมป์ในทางที่ดีมาตลอด จนผมอิจฉา เพราะต้องดูอยู่ทุกวัน เพื่อเอาข้อมูลไปพูดออกอากาศทางวิทยุ ได้แก่ เขตจอมทอง ครับ สีฟ้าสดใสเป็นแชมป์เกือบทุกวันตลอดปีที่แล้ว

ขนาดวันนี้ที่อื่นเขาแย่หมด เขตจอมทองยัง “เขียว” อยู่เขตเดียวเลย

ยุคหนึ่งเขาว่าที่ดินที่เป็นย่านการค้าราคาจะแพงมาก เช่น ย่านสีลม ย่านราชประสงค์อะไรพวกนี้ แต่ต่อไปที่ดินย่านที่ปราศจาก PM2.5 คือมีสีฟ้า สีเขียวอยู่ตลอด อาจจะแพงที่สุดก็ได้

ถ้าจะต้องไปหาซื้อที่แถวๆ เขตจอมทองไว้บ้างละมัง?

“ซูม”