ของฝากถึง “เศรษฐี” วิธีแก้เหลื่อมล้ำเบื้องต้น

ผมเขียนถึงความสำเร็จ และ “ตำนาน” ของห้าง “เซ็นทรัล” ที่เพิ่งฉลองครบรอบ 72 ปี ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมกับทิ้งท้ายไว้ว่า มีความในใจอะไรบางอย่างจะฝากถึงเซ็นทรัล แต่เนื้อที่หมดเสียก่อนจึงต้องยกยอดมาวันนี้

จริงๆ แล้วความในใจของผมคงมิได้ตั้งใจมอบให้แก่เซ็นทรัลเท่านั้น แต่ปรารถนาอย่างยิ่งที่จะฝากไปถึงผู้ประสบความสำเร็จในธุรกิจการค้าทุกค่าย โดยเฉพาะท่านเศรษฐีทั้งหลายในประเทศไทยของเรา

จากตัวเลขจากข้อมูลล่าสุดคงเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า ตลอดเส้นทางการพัฒนาประเทศอันยาวนาน ตั้งแต่ พ.ศ.2504 หรือปีเริ่มต้นของแผนพัฒนาฉบับที่ 1 มาจนถึงบัดนี้ ประเทศไทยของเราเจริญเติบโตขึ้น อย่างแทบจะจำภาพเดิมไม่ได้เลย

โดยเฉพาะรายได้เฉลี่ยของคนไทยเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย จากประเทศยากจน สามารถไต่เต้าขึ้นมาเป็นประเทศ “รายได้ปานกลางขั้นสูง” และกำลังพยายามจะไปให้ถึง “ประเทศรายได้สูงขั้นต้น” ดังที่ รัฐบาลปัจจุบันท่านวางไว้

แต่ในอีกตัวเลขหนึ่ง ซึ่งมองอย่างละเอียดกว่ามิใช่แค่จับเอารายได้ของประเทศทั้งหมดมาหารด้วยจำนวนประชากร แล้วบอกว่าเป็นรายได้เฉลี่ยของคนไทยทุกคน ซึ่งก็ทราบกันแล้วว่าไม่สะท้อนความจริง

ข้อมูลประการหลัง ชี้ช่องว่าช่องว่างของความแตกต่างของรายได้ ในสังคมไทยนับวันจะถ่างขึ้นเรื่อยๆ และภาวะที่เรียกกันว่า “รวยกระจุก… จนกระจาย” ยังคงเกิดขึ้นเรื่อยๆ ทำให้สังคมไทยเป็นสังคมที่มีความ “เหลื่อมล้ำ” สูงอย่างน่าห่วงใย

มีผู้แสดงความคิดเห็นและความกังวลกันอยู่ตลอด รวมถึงก็มีการเสนอหนทางแก้ไขโน่นนี่นั่น กันอยู่เนืองๆ

ขณะเดียวกัน ก็มีการศึกษาหาสาเหตุและที่มาที่ไปว่าทำไมเราจึงตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะเมื่อรู้ถึงสาเหตุแล้วจะได้หาทางแก้ไข หาทางป้องกันไม่ให้ความเหลื่อมล้ำมันมากขึ้นไปอีก จนถึงขั้นเป็นจุดแตกหักที่จะทำให้สังคมไทยของเราไม่สามารถจะอยู่กันอย่างสงบสุขได้ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในบางประเทศ

ข้อดีอีกอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเราขณะนี้ก็คือ ท่านที่ร่ำรวยระดับเศรษฐี มหาเศรษฐีทั้งหลายท่านก็มิได้ใจไม้ไส้ระกำ หรือคิดจะกอบโกยท่าเดียวแต่อย่างใด

เท่าที่เห็นท่านก็คิดถึงคนไทยที่ด้อยโอกาสกว่า มีการจัดโครงการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ที่เรียกกันว่า CSR กันแทบจะทุกบริษัทไปดูแลด้านสิ่งแวดล้อม ไปดูแลทรัพยากรธรรมชาติ ไปร่วมพัฒนาหมู่บ้าน พัฒนาชุมชนไปจนถึงพัฒนาการกีฬา ไปพัฒนาการศึกษา ไปดูแลด้านสาธารณสุข ฯลฯ

ในส่วนของทำบุญทำกุศลท่านก็ทำกันอยู่เนืองๆ มีภัยธรรมชาติที่ไหนท่านก็จะเป็นกองหน้าส่งสิ่งของ ส่งเงินทองไปช่วยผ่านมูลนิธิการกุศลต่างๆ ฯลฯ รวมถึงลงไปช่วยด้วยตนเอง

อย่างช่วงหน้าหนาวจะเริ่มขึ้นก็เห็นไปแจกผ้าห่มกันอยู่หลายบริษัท

เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม ทำแล้วได้ใจคนไทยและได้ใจคนจน ก็อยากจะให้ทำกันต่อไป และทำให้มากขึ้น เพิ่มงบประมาณให้สูงขึ้น

บริษัทไหนมหาเศรษฐีท่านใดยังไม่ได้ทำ หรือทำแล้วยังน้อยเกินไป ก็คงต้องขอร้องให้ออกมาทำมากขึ้น

ผมค่อนข้างมั่นใจว่าปัญหาความเหลื่อมลํ้าจะอยู่กับประเทศไทยไปอีกนาน และถ้ายังเดินหน้าพัฒนาประเทศต่อไปในแนวทางที่กำลังดำเนินอยู่ขณะนี้ ความเหลื่อมลํ้าก็จะยิ่งมากขึ้น

การหันมาตั้งองค์กรการกุศลหรือทุ่มงบประมาณเพื่อการกุศลก็ดี หรือผ่านการพัฒนารูปแบบต่างๆ ก็ดี จะช่วยเยียวยาความเปราะบางของปัญหาที่เกิดจากความเหลื่อมลํ้าได้ทางหนึ่ง

ครับ! ก็เป็นความในใจที่ผมขอฝากไปถึงท่านที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและการงาน จนรํ่ารวยเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐีทุกๆ ท่าน

นึกอะไรไม่ออกก็เลยต้องเริ่มจากรายชื่อฟอร์บส์ที่เขาประกาศในแต่ละปี เอาไว้ก่อนเป็นเบื้องต้น

เผอิญเขาบอกว่ากลุ่ม “เซ็นทรัล” รํ่ารวยเป็นอันดับ 2 รองจากกลุ่ม ซี.พี. ดังนั้น เมื่อเขียนถึงความสำเร็จของเซ็นทรัลแล้ว ก็ถือโอกาสยกมาเป็นตัวอย่างสำหรับการฝากการบ้านในเรื่องนี้ไปยังบริษัท หรือเศรษฐี อื่นๆ เสียด้วยพร้อมๆ กัน.

“ซูม”