ฝันร้ายอีกครั้งของคนกรุง ฝุ่นพิษ PM 2.5 กลับมาแล้ว!

ผมเพิ่งลงจากทางด่วน ที่ผมขึ้นมาจากแถวๆ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อกลับเข้าโรงพิมพ์ เมื่อสัก 15 นาที ก่อนจะเขียนต้นฉบับวันนี้

ขณะอยู่บนทางด่วน ผมมองไปรอบๆ แล้วก็สะดุ้งสุดตัว เพราะมืดครึ้มไปหมดแทบไม่เห็นอะไรเลย นอกจากหมอกควัน

ไม่เห็นตัวตึกสูงๆ ที่อยู่ไกลๆ ส่วนตึกใกล้ๆ พอเห็นบ้างแต่ไม่ชัดนักที่สำคัญไม่เห็นหลังคาบ้าน ไม่เห็นต้นไม้ ทั้งๆ  ที่บนเส้นทางผ่านแถวๆ นี้ ยังมีต้นไม้เป็นหย่อมๆ อยู่เยอะ

น้องพนักงานขับรถไทยรัฐที่ไปรับผมยังอุทานด้วยความตกใจ เพราะตอนขามาก่อนที่เขาจะส่งผมไปประชุมกับเพื่อนๆ ที่สำนักงาน ก.พ.ใกล้ๆ กระทรวงสาธารณสุขเมื่อ 2 ชั่วโมงที่แล้วทุกสิ่งทุกอย่างยังแจ่มใส เป็นปกติ

มองเห็นทัศนียภาพของ กทม.ได้ทั้งไกลและใกล้อย่างชัดเจน

ผมประชุมเสร็จบ่าย 3 โอ้เอ้นิดหน่อยกลับมาขึ้นรถและมาที่ทางด่วนตอนบ่าย 3 โมงครึ่ง ปรากฏว่าเมืองหลวงของประเทศไทยโดนปกคลุมด้วยหมอกควันไปทั้งเมืองเสียแล้ว

มาถึงโรงพิมพ์ใกล้ 4 โมงก็ยังมีควันกระจายอยู่ทั่ว และได้ยิน รปภ. ที่หน้าตึกกองบรรณาธิการบอกว่าเพิ่งจะหนาแน่นเมื่อบ่ายๆ นี่เอง

ผมเช็กไปที่โต๊ะข่าวของกองบรรณาธิการ ทำให้ทราบว่าทางรัฐบาลก็กำลังกังวลใจในเรื่องนี้เหมือนกัน เพราะมีข่าวมาตั้งแต่วันเสาร์ที่แล้วว่า สถานการณ์ ที่เรามักจะเรียกกันว่าฝุ่นพิษกลับมาอีกแล้ว

โต๊ะข่าวบอกผมว่า ท่านนายกฯ เรียกประชุมรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ในเวลา 15.30 น. ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ผมกำลังขึ้นทางด่วนแล้วอุทานด้วยความตกใจนั่นแหละ

ผลการประชุมของท่านนายกฯ จะออกมาอย่างไร? และจะมีมาตรการอย่างไร? ที่สำคัญที่สุดก็คือ ฝุ่นมหาภัยตัวนี้มันเกิดจากอะไร? มาจากไหน? ทำไมถึงมาเร็วจัง? ฝนเพิ่งจะหยุดตกไป 2-3 วันเท่านั้นมาซะแล้ว

ท่านผู้อ่านคงจะทราบคำตอบเหล่านี้จากการแถลงข่าวของโฆษกรัฐบาลไปเรียบร้อยแล้วละ

ผมเองก็เพิ่งจะพูดออกอากาศในรายการข่าวกีฬาของผมไปตอนเช้าวันนี้บอกว่า กทม.เรามีจุดสีส้ม ซึ่งเป็นจุดที่เริ่มอันตรายแล้วในหลายๆ พื้นที่

แม้แต่บางกะปิ บ้านผม ขณะผมพูดออกอากาศตอนเช้า ดูในแอปยังเป็นสีเหลือง มีค่า 71 AQI ซึ่งแปลว่า ปานกลางพอรับได้ต้องระวังตัว

ครั้นมาเปิดแอปดูใหม่อีกที ขณะเขียนต้นฉบับ (บ่าย 4 โมง) ปรากฏว่า แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิบ้านผมกลายเป็นสีส้ม 109 AQI ไปเรียบร้อยแปลว่าเข้าขั้นอันตราย จะต้องระวังตัวแล้วว่างั้นเถอะ

ในขณะที่จุดใหญ่ๆของ กทม.-ปริมณฑล ก็กลายเป็นสีส้มไปเกือบหมด เหลือ สีเหลือง ที่แปลว่า “คุณภาพปานกลาง” อยู่เพียง 2 จุดเท่านั้น คือที่บางเสาธง สมุทรปราการ กับที่ตลาด อ.พระประแดง สมุทรปราการเช่นกัน

นอกนั้นเป็นสีส้มที่แปลว่า “เริ่มอันตราย” หรือ “เริ่มมีผลกระทบ” ทั้งหมด และหนักสุดคือ ถ.ทรงคนอง อ.พระประแดง ที่สูงถึง 147 AQI

สำหรับ กทม. ชั้นในหนักที่สุดคือถนนดินแดง เขตดินแดง สูงถึง 144

เห็นตัวเลขแล้วก็สะอึกซํ้าสอง เดี๋ยวเย็นนี้จะต้องขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้านฝ่าไปตามหลายๆจุดที่เต็มไปด้วยสีส้ม และไม่ได้เตรียมหน้ากากอนามัย N95 ชนิดป้องกันฝุ่นพิษได้มาเลย คงต้องแวะเซเว่นซื้ออย่างธรรมดา (ใช้รวดเดียว 2 ผืน) ไปพลางๆ ก่อน

นึกว่าจะเดือดร้อนเฉพาะภาคใต้ เพราะมีฝุ่นควันมาจากอินโดนีเซีย เมื่อหลายวันก่อน ที่ไหนได้ กทม.ของเรากลับทำท่าจะหนักกว่าเอาซะแล้ว

ผมก็ขออนุญาตปรับทุกข์ผูกมิตรกับท่านผู้อ่านเขียนถึงเหตุการณ์สดๆ ร้อนๆ ที่เพิ่งเผชิญมา แต่กว่าจะลงตีพิมพ์คงเป็นวันพุธ หวังว่าสถานการณ์คงคลี่กลายไปบ้าง

เฮ้อ! นึกแล้วก็น่าเห็นใจชาวกรุงเทพฯ และปริมณฑลนะครับ เพิ่งจะหลับฝันดีได้เพียงไม่กี่เดือนในช่วงฝนตก พอฝนหยุดหน่อยเดียวมาเจอฝันร้ายฝุ่นพิษเจ้าเก่าซะอีกแล้วไหมล่ะ

ฝนตกก็เจอปัญหาน้ำรอระบาย รถติดไปทั้งเมือง พอฝนหายก็มาเจอฝุ่น PM 2.5 คละคลุ้งทั้งเมืองเหมือนกัน “หนีเสือปะจระเข้” ของจริงเลยนะครับ ชาว กทม.เรา.

“ซูม”