แด่ทีวี 7 ช่องที่ต้องอำลา+ให้กำลังใจ 15 ช่องที่ยังอยู่

หลังจากที่ลุ้นระทึกกันอยู่หลายวันว่า ทีวีดิจิทัลช่องไหนบ้างหนอที่จะโบกมือลาจอยุติการออกอากาศคืนใบอนุญาตให้แก่ กสทช. หลังจากที่ หัวหน้า คสช.มีคำสั่งตาม ม.44 ให้ผู้ประกอบการคืนใบอนุญาตได้ แถมยังจะได้เงินปลอบใจอีกจำนวนหนึ่ง

ในที่สุดหวยก็มาออกที่ 7 ช่อง อันได้แก่ ช่อง 14 แฟมิลี่ ของอสมท, ช่อง 3 แฟมิลี่ ของ บีอีซีมัลติมีเดีย จำกัด, ช่อง 28 หรือช่อง 3 เอสดี ของ บีอีซีมัลติมีเดีย จำกัด, ช่อง 19 บริษัท สปริงนิวส์ จำกัด, ช่อง 20 ไบรท์ทีวี จำกัด, ช่อง 21 วอยซ์ทีวี จำกัด และช่อง 26 ของ แบงคอก บิสสิเนส บรอดแคสติ้ง จำกัด

ก่อนหน้านี้ขอถอนไปแล้ว 2 ช่อง คือบริษัท ไทยทีวี จำกัด ของ เจ๊ติ๋ม ดังที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ทำให้จะเหลือทีวีออกอากาศต่อไปอีก 15 ช่อง

ผมอ่านถ้อยแถลงของท่านเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ฐากร ตัณฑสิทธิ์ แล้วก็รู้สึกใจหาย แม้จะคาดเดาล่วงหน้าไว้แล้วก็ตาม

ใจหายเพราะเมื่อช่องปิดก็แปลว่าจะต้องมีคนตกงาน ตั้งแต่พิธีกร นักข่าว ช่างภาพ ช่างกล้อง ฯลฯ ไปจนถึงพนักงานขับรถ

ยิ่งในช่วงเวลาเศรษฐกิจไม่ค่อยจะดีเท่าไรนักอย่างทุกวันนี้ จะไปหางานใหม่ทำคงไม่ใช่ง่ายๆ นัก

แถมเป็นงานด้านสื่อมวลชนที่แม้จะเป็นสื่อหลักก็จริง แต่ก็เป็นสื่อที่กำลังจะเสื่อมความนิยมไปตามกระแสโลก ที่หันหลังให้แก่สื่อเก่าๆ มาหลายปีแล้ว การหางานทำคงไม่ใช่ง่ายๆ นัก

ก็ได้แต่เห็นใจและขอฝากกำลังใจมาให้แก่เพื่อนพ้องน้องพี่ทุกๆ คนที่จะต้องตกงานในคราวนี้ ให้กัดฟันสู้ๆ ต่อไป อย่าได้ท้อถอย

งานอะไรที่สุจริตและพอเลี้ยงตัวได้ก็ทำไปเถิด เพราะจะหางานด้านสื่อโดยเฉพาะทีวีให้พวกเราทำก็คงยากเย็นแสนเข็ญหนักหนา

ผมถึงเห็นด้วยกับที่ท่านเลขาธิการฐากร ท่านเล่าว่า นายกฯ บิ๊กตู่ฝากมาขอให้บริษัทต่างๆ ที่คืนใบอนุญาตและจะได้เงินชดเชยไปพอสมควร โปรดไปชดเชยต่อหรือเยียวยาต่อแก่พนักงานที่จะตกงานด้วย อย่างน้อยก็ควรจะมากกว่าค่าชดเชยตามที่จะได้ตามกฎหมายแรงงาน

แม้สาเหตุที่ท่านปิดตัวเองเพราะสู้ไม่ไหวจริงๆ ที่แล้วมาขาดทุนยับเยินไปตามๆ กัน…ถึงจะได้ชดเชยมาบ้างก็ยังไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ท่านจ่ายไปแล้ว

แต่การที่รัฐเปิดโอกาสให้ท่านคืนใบอนุญาต โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายต่อ แถมได้คืนบางส่วน ก็ถือเป็นโชคดีของท่านมากแล้ว

พูดตามภาษานักการพนันก็คือ ท่านยังไม่หมดตัว ยังมีเงินค่ารถกลับบ้านและยังมีเงินติดกระเป๋าไปอีกจำนวนหนึ่ง ที่จะไปลงทุนสร้างตัวใหม่ในด้านอื่นๆ ในอนาคต

เพราะฉะนั้นหากจะแบ่งปันเงินติดกระเป๋าที่ว่านี้ ให้ผู้ที่เคยร่วมสุขร่วมทุกข์ ทำงานให้ท่านและกำลังจะตกงาน มากกว่าที่กฎหมายแรงงานกำหนดไว้ ก็จะถือเป็นการแสดงนํ้าใจและสร้างสัมพันธ์อันดีไว้สำหรับวันข้างหน้า

สำหรับ 15 ช่องที่ยังอยู่ ก็ใช่ว่าจะอยู่อย่างมีความสุขนะครับ ผมเชื่อว่ายังจะต้องดิ้นรนต่อสู้อีกมาก

เพราะอย่างที่เราทราบ ความต้องการเสพสื่อของมนุษย์ทั่วโลกเปลี่ยนไปแล้ว สื่อเก่าๆ อย่างหนังสือพิมพ์ วิทยุ รวมทั้งโทรทัศน์ด้วยล้วนนับวันที่จะรอเวลา “ลาโรง” ด้วยกันทั้งนั้น

ความสุข ความสนุก ความมันในการเสพสื่อของคนรุ่นใหม่ เขาไปอยู่ที่แพลตฟอร์ม ออนไลน์ กันหมด เหลือแต่คนกลางคน และคนมีอายุเท่านั้น ที่ยังมีความสุขกับสื่อในรูปแบบเดิม

แต่ก็เอาเถอะ ชีวิตยังไม่สิ้นก็ดิ้นกันไป นึกถึงคำปลอบประโลมใจ ของ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ และนักเตะ ลิเวอร์พูล หลังแพ้บาร์เซโลนา 3-0 เอาไว้ก็แล้วกัน

ที่พวกเขาสวมเสื้อยืดมีข้อความบนหน้าอกว่า “Never Give Up” หรือแปลง่ายๆ ว่า “อย่ายอมแพ้” นั่นแหละครับ

ในที่สุดลิเวอร์พูลซึ่งไม่ยอม Give Up ก็กลับมาชนะได้อย่างปาฏิหาริย์…ซึ่งผมก็หวังว่าอาจจะมีปาฏิหาริย์มาช่วยต่ออายุสื่อเก่าๆ (ทุกประเภท) ที่ยังไม่ยอมแพ้ บ้างล่ะน่า…

(เพียงแต่ตอนนี้ยังมองไม่เห็นเท่านั้นเอง)

“ซูม”