นี่คือ “มรดก” แห่งชาติที่คนไทยต้อง “รักษา” ไว้

ขณะที่ผมเขียนต้นฉบับวันนี้ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2562 ยังไม่จบครับ แต่เมื่อลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันอังคารที่ 7 พฤษภาคมแล้ว ทุกสิ่งทุกประการก็จะจบลงอย่างสมบูรณ์

ผมขออนุญาตกราบเรียนท่านผู้อ่านอีกครั้งว่า ตลอดช่วงเวลาของงานพระราชพิธีที่ผ่านมา ผมไม่ออกไปไหนเลยนั่งเฝ้าอยู่หน้าจอโทรทัศน์ชมการถ่ายทอดสดตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนจบรายการทั้ง 3 วัน

บังเกิดความปลาบปลื้มปีติโสมนัสและเปี่ยมล้นไปด้วยความภาคภูมิใจที่เกิดมาเป็นคนไทย ที่มีสถาบันหลัก 3 ประการ ชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ เป็นที่ยึดเหนี่ยว

เหนืออื่นใดชาติของเรายังเป็นชาติที่มีเอกลักษณ์ สัญลักษณ์ สั่งสม “มรดก” ด้านวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ไว้หลายต่อหลายประการ และในครั้งนี้ เราก็ได้เห็นถึง ขัตติยราชประเพณี บรมราชาภิเษก ที่อาจจะกล่าวได้ว่าไม่มีที่ใดในโลกอีกแล้วที่จะยิ่งใหญ่ สวยงาม ละเอียดอ่อน แฝงไว้ด้วยความหมายทุกขั้นตอนเฉกเช่นที่ประเทศไทยของเรามีอยู่

เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่เรายังสามารถเก็บรักษาพระราชประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์นี้ไว้ได้อย่างครบถ้วน และก็นับเป็นบุญของพวกเราเหล่าพสกนิกรชาวไทยอย่างล้นเหลือ ที่มีโอกาสได้เห็น ได้ชมและหลายๆ คนก็ได้ไปร่วมในพระราชประเพณีด้วยตนเอง

ดังที่ผมกล่าวไว้เมื่อวานนี้ว่า เมื่อ 69 ปีที่แล้ว ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในหลวงรัชกาลที่ 9 วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2493 ผมยังแค่อายุ 9 ขวบ ไม่สามารถจำความอะไรได้เลย

ส่วนผู้ใหญ่ในยุคนั้นหากมิได้ไปเข้าเฝ้าฯ ด้วยตัวเองในบริเวณที่ทางราชการได้จัดไว้ให้ หรือระหว่างเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร ตลอดจนในการเสด็จออก ณ สีหบัญชร ฯลฯ เหล่านี้แล้ว

ก็แทบจะไม่มีโอกาสได้พบได้เห็นพิธี ที่ดำเนินขึ้นในพระที่นั่งต่างๆ ภายในพระบรมมหาราชวังเลย ต้องติดตามอ่านข่าวสารชมภาพจากหนังสือพิมพ์รายวันในวันรุ่งขึ้น หรือติดตามชมจากภาพยนตร์ส่วนพระองค์ที่มีการนำออกฉายในภายหลังเท่านั้น

ต่างกับยุคนี้ที่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ ให้ชาวไทยได้ดูชมกันอย่างละเอียดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่พิธีการตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จากทั่วราชอาณาจักรเมื่อต้นเดือนเมษายนโน่นแล้ว

ผมต้องขอแสดงความชื่นชม และขอขอบคุณ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ที่ทำหน้าที่ในการถ่ายทอดสดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2562 ได้อย่างยอดเยี่ยม จนไม่สามารถจะหาข้อตำหนิใดๆ ได้เลย มีแต่จะต้องชมเชยเพียงประการเดียวเท่านั้น

การนำเสนอภาพตัดต่อภาพเป็นไปอย่างทันท่วงทีทันเหตุการณ์ มีทั้งมุมกว้าง มุมไกล มุมสูง ครบถ้วน

การบรรยายก็ทำหน้าที่ได้ดีมาก ขออนุญาตไม่เอ่ยนาม (แต่ก็คงจะทราบแล้วว่าเป็นท่านใด) เพราะตั้งใจจะเขียนแสดงความชื่นชม เป็นการรวมทั้งหมด ยกความดีงามให้ทั้งหมด ตั้งแต่ผู้รับผิดชอบสูงสุดไปจนถึงช่างกล้อง ช่างไฟ และคนเล็กคนน้อยของโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ ซึ่งน่าจะใช้กำลังคนนับเป็นพันคนกระมัง

นอกจากนี้ ก็ต้องขอบคุณสื่อออนไลน์ และโซเชียลมีเดียทั้งหลาย และตลอดทั้งสื่อพลเมืองจากไลน์ จากเฟซบุ๊ก จากอินสตาแกรม ฯลฯ ที่ช่วยกันทำหน้าที่อย่างไม่แพ้โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ

เผยแพร่ข่าวและภาพในชั่วพริบตาหลังจากทีวีถ่ายทอดสดเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ก็มาปรากฏในโทรศัพท์มือถือของเราเรียบร้อย

นับเป็นความปลาบปลื้ม ความชื่นชมโสมนัสที่เกิดขึ้นทั่วประเทศไทยแทบจะในช่วงเวลาเดียวกัน ไม่ต้องรอข้ามคืนข้ามวันดังเช่นในอดีต

ผมหวังว่าพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าจะจดจำความปลื้มปีติ ความประทับใจ และความดื่มด่ำนี้ไว้ตลอดกาลนาน

รวมทั้งขอให้จดจำพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่ทรงกล่าวต่อผู้เข้าเฝ้าฯเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมใส่เกล้าฯไว้โดยตลอด

“ข้าพเจ้าขอเชิญชวนทุกท่านทุกฝ่ายในมหาสมาคมนี้ และประชาชนชาวไทยทุกคนได้ตั้งความปรารถนาร่วมกันกับข้าพเจ้าในอันที่จะร่วมกันปฏิบัติงานตามฐานะและหน้าที่ของตน โดยยึดเอาประโยชน์คือความเจริญมั่นคงของประเทศชาติและความผาสุกร่มเย็นของประชาชนเป็นเป้าหมายสูงสุด”

มิเพียงจำใส่เกล้าฯ อย่างเดียวเท่านั้น หากจักต้องปฏิบัติอย่างพร้อมเพรียงกันด้วยนับจากวันนี้เป็นต้นไป.

“ซูม”