เทศกาล “วิถีน้ำ…วิถีไทย” ได้เวลา “อยู่เย็น เป็นสุข”

นับจากวันนี้ไปก็แค่ 4 วันเท่านั้น วันปีใหม่แบบไทยๆหรือ “วันสงกรานต์” จะเวียนมาถึงอีกครั้ง…วันแห่งความสุขของคนไทย วันแห่งการเฉลิมฉลองอันชุ่มฉ่ำ วันแห่งการกลับบ้าน วันแห่งการท่องเที่ยว วันครอบครัว วันผู้สูงอายุ และ ฯลฯ

ต้องยอมรับเทศกาลสงกรานต์เป็นเทศกาลที่คนไทยรอคอยอย่างใจจดใจจ่อมากกว่าเทศกาลอะไรทั้งหมด รวมทั้งจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองมากกว่าทุกๆ เทศกาล ที่บ้านเรามีอยู่ก็ว่าได้

ผมเองทยอยเขียนไปบ้างแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และก็คงจะต้องเขียนให้อีกในวันเสาร์ที่จะถึง ซึ่งจะเป็นวันสงกรานต์พอดิบพอดี (13 เมษายน) เพราะยังมีรอคิวอยู่อีกหลายงาน

แต่มีอยู่งานหนึ่งที่ผมจะหยิบมาเขียนให้เต็มคอลัมน์หรือเกือบๆ เต็มอยู่เสมอ เพราะชอบใจในแนวคิดของผู้จัดงานนี้ที่ใช้ “วิถีน้ำ” เป็นวิถีหลักของการจัดงาน ซึ่งปีหนึ่งจะมี 2 หนคือในช่วง “ลอยกระทง” กับ “ช่วงสงกรานต์” ภายใต้ชื่องานโดยรวมว่า “เทศกาลวิถีน้ำ…วิถีไทย” แล้วก็ต่อท้ายด้วยตัวเลข พ.ศ.ของแต่ละปีเอาไว้

จากนั้นก็แปลเป็นภาษาอังกฤษให้ติดหูชาวต่างประเทศ เพื่อประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์ให้เขามาเที่ยวเมืองไทย โดยใช้คำว่า “Water Festival” แล้วตามท้ายด้วยปี ค.ศ. เพื่อความเป็นสากล

ในช่วง “ลอยกระทง” ก็จะจัดให้มีงานตามวัดหลักๆ ริมน้ำเจ้าพระยา แล้วก็จัดเรือโดยสารฟรีให้ผู้คนไปลอยกระทงและแวะเวียนไหว้พระตามวัดต่างๆ รวมทั้งเยี่ยมชุมชนข้างๆ วัดนั้นด้วย

มาถึง สงกรานต์ ก็ยังใช้แนวคิดเดียวกัน คือเชิญชวนประชาชนไปเล่นสงกรานต์ ไปไหว้พระ ณ วัดหลักริมน้ำเช่นเดิม และก็ใช้เรือโดยสารขนถ่ายไปตามลำน้ำสายเดิม คือ “แม่น้ำเจ้าพระยา” เส้นเลือดหลักของประเทศไทยเรานี่แหละครับ

ปีนี้ “เทศกาลวิถีน้ำวิถีไทย 2562” หรือ “Water Festival 2019” จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 13-15 เมษายน ภายใต้คำขวัญ “อยู่เย็นเป็นสุข” นำพี่น้องประชาชนลงเรือไปขึ้นท่าไหว้พระในวัดหลักๆ ดังนี้

1.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) 2.วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร (วัดประยูรฯ หรือวัดยูเนสโก) 3.วัดอรุณราชวราราม (วัดแจ้ง) และ 4.วัดกัลยาณมิตรวรวิหาร (วัดกัลยาฯ)

ไปไหว้พระไปสรงน้ำพระและอุดหนุนสินค้าชุมชนรอบๆ วัดกันได้ตลอด 3 วันที่จัดงาน

นอกจากนี้เขายังจอดแถมให้อีก ตั้งแต่ เอเชียทีค, สาทร, ไอคอนสยาม, ล้ง 1919, ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค, และ ท่ามหาราช รวมทั้งสิ้น 9 ท่าด้วยกัน

เรือจะเริ่มออกจากท่าแรกตอน 9 โมงเช้า และออกทุกๆ 20 นาทีไปตลอดทั้งวัน จนถึง 22.00 น. โดยสามารถไปรอขึ้นเรือได้ทุกท่า เพราะอย่างไรเสียก็จะแล่นเวียนมาทุกๆ 20 นาทีนั่นแหละ

ผมต้องขอขอบคุณ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ กระทรวงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ สปอนเซอร์ใหญ่ บริษัทไทยเบฟเวอเรจฯ ที่ร่วมกันจัดงาน “เทศกาลวิถีน้ำวิถีไทย” ปีละ 2 งาน หน้าร้อนหนึ่งหน้าหนาวหนึ่งมา 5 ปีแล้วกระมัง

ผมเองไปร่วมงานแทบทุกปี โดยเฉพาะในช่วง “ลอยกระทง” ไปเมื่อไรก็มีความสุขเมื่อนั้น พร้อมกับรู้สึกภาคภูมิใจที่เกิดมาเป็นคนไทยมีของดีอยู่ริมน้ำเจ้าพระยา ทั้งสวยงาม ทั้งทรงคุณค่า โด่งดังไปทั่วโลก

ใครจะทะเลาะใครจะถกเถียงเรื่องการเมืองอย่างไร ก็ว่ากันไป เรามาสนุกกับเทศกาลสงกรานต์ กับ “วิถีน้ำวิถีไทย” และสารพัดงานสงกรานต์ ที่จัดขึ้นทั่วประเทศไทยกันดีกว่าครับ

อย่างที่แผ่นปลิวประชาสัมพันธ์ของงานนี้บอกไว้ “สงกรานต์นี้ดีงาม…ที่ไหนก็มีความสุข”…เห็นด้วยทุกประการครับ! เพราะบรรยากาศของสงกรานต์มีแต่ความดีงามและมีแต่ความสุขโดยแท้

นอกจากงานใหญ่ใน กทม.แล้ว เทศกาลวิถีน้ำวิถีไทย ยังมีอีก 3 จังหวัด 3 ภาคทั่วไทย ได้แก่ ที่ ถนนดีบุก จังหวัดภูเก็ต ภาคใต้ 14-15 เม.ย., ที่ พิพิธภัณฑ์เรือนโบราณล้านนา ถ.คลองชล, ตัดสุเทพ อ.เมือง เชียงใหม่ ภาคเหนือ 13-15 เม.ย. และที่ ลานวัฒนธรรมมรดกโลกบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี ภาคอีสาน 13-14 เม.ย.

อยู่ใกล้ที่ไหนไปเที่ยวที่นั่น หรือแม้แต่อยู่ไกล แต่มีความประสงค์จะเดินทางไปเที่ยวไปร่วมสืบสานประเพณีอันดีงามของไทย ก็เชิญได้เลย

เที่ยวอยู่ในเมืองไทยอุดหนุนคนไทยด้วยกัน กินเท่าไร ใช้เท่าไรเงินก็จะอยู่ในเมืองไทย ไม่รั่วไหลออกนอกว่างั้นเถอะ.

“ซูม”