ผมต้องส่งต้นฉบับวันนี้ประมาณ 5 โมงเย็นวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาปิดหีบเลือกตั้งพอดิบพอดี และคงอีกนานกว่าผลการนับคะแนนจะแล้วเสร็จ
จึงไม่สามารถที่จะเขียนอะไรเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ได้มากนัก นอกจากจะสรุปภาพกว้างๆ ว่า ตลอดทั้งวันที่ผ่านมามีผู้ไปใช้สิทธิใช้เสียงพอสมควรทีเดียว
ที่หน่วยเลือกตั้งหน้าการเคหะแห่งชาติคลองจั่น ถนนนวมินทร์ เขตบางกะปิ ซึ่งเป็นหน่วยที่ผมจะต้องไปใช้สิทธินั้น คึกคักตั้งแต่เช้า
ผมไปเดินออกกำลังที่ สวนพฤกษชาติ ที่อยู่ใกล้ๆ อยู่พักหนึ่งเสร็จแล้วก็ไปยืนสังเกตการณ์ที่หน้าหน่วย ซึ่งมี 5 คูหา พบว่ามีประชาชนมายืนรอใช้สิทธิยาวไม่เบาทีเดียว ตั้งแต่ก่อน 08.00 นาฬิกา
ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุรุ่นๆ เดียวกับผมที่แหละครับ โดยเฉพาะผู้ที่ใช้สิทธิคนแรกของคูหาผมเป็นเภสัชกรหญิงวัย 90 ปี มาพร้อมกับ “วอล์กเกอร์” หรือเครื่องช่วยในการเดินสำหรับผู้ฟื้นฟูร่างกายหรือผู้สูงอายุ ขยับมาทีละก้าวด้วยใบหน้ามุ่งมั่น
จริงๆ แล้วท่านมาประมาณคนที่ 3 ที่ 4 แต่ 2 คนแรกที่เข้าคิวอยู่ก่อนความจริงก็สูงอายุเหมือนกัน แต่ยังดูแข็งแรงดี หันมายิ้มพร้อมกับเปิดทางให้เข้าไปใช้สิทธิก่อนอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย
ตามมาด้วยผู้สูงอายุที่นั่งรถเข็นมีลูกหลานเข็นมาส่งเป็นรายที่ 2
ที่ผมทราบอายุรายแรกเพราะเธอบอกกับคนข้างๆ ว่า 90 ปีแล้วจ้ะ และที่ทราบอาชีพของท่านก็เพราะคนที่เข้าคิวอีกรายหนึ่งซึ่งคงจะรู้จักท่าน บอกว่าท่านเป็นเภสัชกร
เห็นบรรยากาศอะลุ่มอล่วย ถ้อยทีถ้อยอาศัย ระคนยิ้มแย้มแจ่มใสที่หน่วยเลือกตั้งหน้าการเคหะแห่งชาติอย่างนี้แล้วผมก็พลอยมีความสุขไปด้วย
หวังว่าทุกๆ หน่วยทั่วประเทศก็คงอยู่ในบรรยากาศเดียวกัน
อาจจะเป็นเพราะย่านคลองจั่นที่ผมพำนักอยู่เป็นชุมชนเก่าแก่ เพราะตัวหมู่บ้านทั้งหมดรอบๆ การเคหะแห่งชาติเป็นหมู่บ้านที่มีอายุไม่น้อยกว่า 50 ปี สร้างตั้งแต่ พ.ศ.2509 เพื่อเป็นหมู่บ้านสำหรับนักกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 5 ที่ประเทศไทยเราเป็นเจ้าภาพครั้งแรก
ผู้อยู่อาศัยจึงเป็นผู้คนที่มีอายุค่อนข้างสูงตามไปด้วย
กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ที่ไปใช้สิทธิและเข้าคิวตั้งแต่ก่อน 8 โมง รวมทั้งผมด้วยเป็นผู้สูงอายุ ที่ดูจากใบหน้า สีผม และจำนวนเส้นผมบนศีรษะแล้วน่าจะเกิน 60 ปี
เขาว่าผู้สูงอายุมักเข้านอนเร็วและตื่นเช้า บางรายตี 4 ตี 5 ก็ตื่นแล้ว จึงมาเข้าคิวใช้สิทธิได้ก่อนใครๆ
ส่วนคนหนุ่มคนสาวและวัยกลางคน หรือผู้ที่อยู่ในวัยทำงาน คงจะทยอยกันมาในช่วงสายๆ บ่ายๆ เย็นๆ ตามลำดับ
กว่าต้นฉบับวันนี้ของผมจะลงตีพิมพ์ ท่านผู้อ่านคงจะทราบจากข่าวหน้า 1 และโทรทัศน์ช่องต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า มีผู้มาใช้สิทธิ ถึง 80 เปอร์เซ็นต์หรือไม่? และพรรคไหนได้ ส.ส.ไปเท่าไร?
มีการวิเคราะห์ที่แสดงความห่วงใยมาโดยตลอดว่า ผลจากการที่พรรคการเมืองเราแบ่งออกเป็น 3 ก๊กใหญ่ๆ ที่แทบไม่มีหนทางจะปรองดองกันได้เลย จะทำให้การเมืองไทยและประเทศไทยยุ่งเหยิงสับสนและขัดแย้งกันต่อไปอีกนาน
ไม่ว่าพรรคไหนจะมาเป็นรัฐบาล และไม่ว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีก็จะยุ่งเหยิงทั้งสิ้น
เพราะความแตกแยกทั้งในแง่ความคิด ความเชื่อและอุดมการณ์ทาง
การเมืองที่เคยเป็น 2 ก๊ก แล้วกลายเป็น 3 ก๊ก ในปัจจุบันยังคงมีอยู่เหมือนเดิม
5 ปีที่ผ่านมามิได้มีการแก้ไขเยียวยาหรือพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น มีแต่เก็บกดไว้ข้างใน รอวันที่จะปะทุขึ้นมาอีกเท่านั้น
ผมเองก็คิดอย่างนี้และเชื่อเช่นเดียวกันนี้ และมีความวิตกในลักษณะนี้มาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง
แต่ก็ช่างเถอะ อะไรจะเกิดก็ต้องให้มันเกิด ปลอบใจเสียว่าประเทศไทยเรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง พระสยามเทวาธิราชทรงดูแลเราอยู่อย่างใกล้ชิด มีอะไรร้ายแรงบ้าง ท่านก็ปล่อยให้มีนิดหน่อย แต่ไม่เคยถึงขั้นเสียหายหนัก หรือเลือดท่วมแผ่นดินสักครั้งเดียว
วันนี้เราได้เลือกตั้งกันแล้ว มีความสุขในระดับหนึ่งแล้ว อะไรจะเกิดก็สุดแต่ฟ้าดินจะบันดาลเถิด…อย่าห่วงอะไรมาก พระสยาม เทวาธิราชท่านไม่เคยทอดทิ้งประเทศไทย.
“ซูม”