ข้อเขียนของผมวันนี้ เป็นข้อเขียนที่ผมเขียนล่วงหน้าเอาไว้ ก่อนจะออกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศใกล้ๆ บ้านเรานี่แหละครับ สัก 2-3 วัน จึงเป็นเรื่องแห้งๆ หรือเรื่องทั่วไปที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์บ้านเมืองเท่าไรนัก

ตามคิวแล้ววันนี้ผมจะต้องเขียนและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับว่า ท่านนายกฯ “บิ๊กตู่” ท่านจะรับคำเชิญของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะใส่ชื่อท่านไว้เป็นหมายเลข 1 สำหรับบุคคลที่พรรคจะเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่?

ยอมรับ ก็คงจะออกความเห็นอย่างหนึ่ง…ไม่ยอมรับ ก็คงจะเป็นความเห็นอีกแบบหนึ่ง

เผอิญว่าท่านจะตัดสินใจในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ. แต่ผมต้องปิดต้นฉบับตั้งแต่วันพฤหัสฯ ที่ 7 ก.พ. เพื่อไปขึ้นเครื่องบินเช้าวันศุกร์ ก็เลยต้องผัดผ่อนออกไปก่อน ไว้กลับมาประจำการตามเดิมแล้วค่อยเขียนถึงก็แล้วกันคงจะไม่สายเกินไป

สำหรับเรื่องแห้งๆ ที่ผมตั้งใจจะเขียนวันนี้ ถ้าจะว่าไปแล้วก็ถือว่าพอจะกล้อมแกล้มเข้ากับเหตุการณ์ทางการเมืองได้บ้างพอสมควร

เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความ “ซื่อสัตย์” ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่จะขันอาสามารับใช้ประชาชนและประเทศชาติที่กำลังหาเสียงกันอย่างสุดเหวี่ยงอยู่ในขณะนี้

ผมได้รับจดหมายจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ของกลุ่มที่เรียกชื่อตัวเองว่า “กลุ่มสังคมคนซื่อสัตย์ (Honest Society)” พิมพ์หัวกระดาษมาอย่างสวยงาม พร้อมคำขวัญสั้นๆ ว่า “ซื่อสัตย์เพื่อชาติ”

หน้าแรกของจดหมายฉบับนี้เขียนไว้ว่า “ความซื่อสัตย์” เป็นคำที่เราได้ยินกันมานาน ซึ่งส่วนใหญ่เด็กๆทุกคนจะได้รับการปลูกฝังมาจากผู้ใหญ่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความซื่อสัตย์อาจเป็นเพียงคำพูดที่ผ่านหูเราไป โดยไม่มีใครตระหนักถึงความสำคัญมากนัก

ด้วยเหตุนี้ กลุ่มสังคมคนซื่อสัตย์ จึงได้จัดโครงการ “ซื่อสัตย์เพื่อชาติ” ที่มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างค่านิยมและปลูกจิตสำนึกเรื่องความซื่อสัตย์ให้เกิดขึ้นในกลุ่มเยาวชน และกระตุ้นให้คนไทยกลับมาเห็นคุณค่าของความซื่อสัตย์ให้มากยิ่งขึ้น

เป็นที่มาของการผลิตคลิปวิดีโอขึ้น 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่องแรก “รู้จักความซื่อสัตย์ไหม” เป็นการตั้งคำถามกับเด็กเพื่อทดสอบว่าพวกเขารู้จักและเข้าใจความหมายของคำๆ นี้เพียงใด

ส่วนเรื่องที่สอง “ใครเป็นคนซื่อสัตย์” เป็นการตั้งคำถามกับเด็กว่าใครคือคนซื่อสัตย์ในสายตาของเขา โดยจะเป็นการสัมภาษณ์เด็กอายุ 8-12 ปี จำนวนนับร้อยคนทั่วประเทศแบบไม่มีคำตอบให้เลือก…คือให้เขาพูดเอง คิดเอง ว่าคนซื่อสัตย์ที่เขารู้จักคือใคร?

น้องๆ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของกลุ่มเฉลยมาด้วยว่า ในคลิปเรื่อง 1 ที่ถามว่าเด็กๆ รู้จักความซื่อสัตย์ไหม? เด็กๆ ส่วนใหญ่จะตอบว่ารู้จัก

ส่วนคำถามข้อสองใครเป็นคนซื่อสัตย์ที่สุด?…เด็กๆ ถึงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ตอบว่าในหลวงรัชกาลที่ 9

ทางกลุ่มจึงได้เผยแพร่ทั้ง 2 คลิปผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยหวังว่าจะสื่อสารให้ผู้ดูผู้ชมหันมาตระหนักถึงความซื่อสัตย์ผ่านความไร้เดียงสาของเด็กๆ ซึ่งเมื่อฟังแล้วก็จะเกิดความคิดขึ้นว่า เด็กๆ ยังรู้เลย เราล่ะรู้หรือยัง? กระจ่างหรือยัง? รู้แล้วกระจ่างแล้วก็อาจจะตั้งคำถามขึ้นว่าเราทำหรือยังหนอ? คงต้องรีบทำแล้วละมัง ไม่งั้นจะอายเด็กๆ ฯลฯ

ถือเป็นการช่วยรณรงค์เรียกหาความ “ซื่อสัตย์” ให้กลับคืนมาสู่คนไทยและสังคมไทย หลังจากที่ห่างหายไปพอสมควรในหลายๆ ปีมานี้

สามารถเข้าดูชมกันได้ใน Facebook Fanpage : @Honest Society Thailand ตั้งแต่บัดนี้ครับ

ผมยังไม่มีเวลาจะเข้าชม แต่ก็ตั้งใจว่าจะเข้าชมในวันใดวันหนึ่งเร็วๆนี้แหละ…แต่ที่รีบเอามาเขียนทันทีก็ด้วย 2 เหตุผลดังที่แจ้งไว้แล้วตั้งแต่แรก คือ 1 จะเดินทางไกลหลายวันต้องเขียนล่วงหน้าไว้ และ 2 เข้ากับบรรยากาศการเลือกตั้งพอดีว่างั้นเถอะ

รีบเอามาลงซะตอนนี้ คนไทยจะได้นึกถึงคำว่า “ซื่อสัตย์” และท่องคำนี้กันให้ขึ้นใจ แล้วก็ตรวจสอบดูว่านักการเมืองคนไหน หรือพรรคไหนบ้างที่ไม่ “ซื่อสัตย์” และอาจไม่สุจริตเอาซะด้วย

จะทำให้เราเลือกง่ายขึ้น…ใครที่ดูแล้วไม่ซื่อสัตย์สุจริตจะได้ตัดชื่อทิ้งเสียตั้งแต่หาเสียงนี่เลย.

“ซูม”