ตำนานตัวต่อ “เลโก้” “สุดสวย” แบบไทยๆ

ก่อน “วันเด็กแห่งชาติ” ปีนี้ 2–3 วันห้างดังๆ หลายแห่งได้ส่งบัตรเชิญมาที่ทีมงานซอกแซก ขอให้ไปชมกิจกรรมที่เขาจัดขึ้นเพื่อเด็กๆ ในปีนี้เป็นการล่วงหน้า

หัวหน้าทีมซอกแซกมีโอกาสไปดูด้วยตนเอง 2-3 แห่ง ปรากฏว่าไปประทับใจอยู่ 2 ที่ ได้แก่ ที่ เอ็ม ควอเทียร์ กับการแสดงชุด “WONDERLAND ZOOVENTURE” เอาสวนแมลง สวนผีเสื้อ จาก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสนมาแสดงทั้งชุด

กับแห่งที่ 2 ชื่นชมมาก สำหรับการแสดงชุด เลโก้ หรือตัวต่อพลาสติกที่สุดอลังการในแนวคิด “งานวัดและการละเล่นไทย” ที่สยามพารากอน

แต่ที่จะเขียนถึงวันนี้ขออนุญาตเจาะจง เฉพาะเรื่องราวของตัวต่อเลโก้ (lego) ที่สยามพารากอนเท่านั้น เพราะไม่เพียงแค่ความมหัศจรรย์ของการต่อเป็นรูป “งานวัด” และ “การละเล่นไทย” ถึง 12 แบบ โดยใช้ “บริค” หรือตัวต่อกว่า 5 แสนชิ้นที่ว่านี้เท่านั้น

ยังมีเรื่องราวที่เป็นตำนานที่น่าสนใจของ lego สินค้าเด็กที่ฮิตที่สุดในโลกจากการค้นคว้าของทีมงานซอกแซกมาฝากท่านผู้อ่านด้วย

ก่อนอื่นขอเล่าสั้นๆ ก่อนว่าเลโก้ชุดแสดง ที่สยามพารากอนวันเด็กปีนี้มีอะไรบ้าง…ก็ตอบได้เลยว่าเท่าที่เห็นด้วยสายตาและที่ทีมงานช่วยจดมาด้วยมีดังนี้ครับ

1.ซุ้มขายอาหารงานวัด (หมึกย่าง, นํ้าอัดลม, สายไหม, ไก่ย่าง, ลูกชิ้น, ไอติม, ไข่นกกระทา, ลูกโป่ง) 2.หนังกลางแปลง 3.ซุ้มยิงปืนจุกนํ้าปลา 4.การละเล่นเด็กไทย (งูกินหาง, มอญซ่อนผ้า, รีรีข้าวสาร) 5.ร้านปาเป้าและช้อนปลา 6.บ้านผีสิง 7.เวทีสาวรำวง 8.เจดีย์ทราย 9.ชิงช้าสวรรค์ 10.สาวน้อยตกนํ้า 11.ม้าหมุน และ 12.บ้านลมหรรษา ฯลฯ

สวยงามจริงๆ นึกไม่ถึงว่าความเป็นไทยของเราเมื่อถ่ายทอดออกมาเป็นจินตนาการในรูปแบบของตัวต่อพลาสติก Lego จะออกมางดงามได้ขนาดนั้น

ทีนี้ก็มาว่ากันถึง “ตำนาน” และที่มาที่ไปของ “ของเล่น” ชนิดนี้ได้ละ…ว่าเหตุใดไฉนหนอจึงกลายเป็นของเล่นฮิตระดับโลก? และต้นกำเนิดมาจากประเทศใด?

ท่านที่เป็นพ่อแม่หรือแม้แต่ปู่ย่าตายายที่มีลูกหลานเป็นเด็กๆ คงจะทราบดีว่าของเล่นที่เด็กๆ ชื่นชอบอย่างมากประการหนึ่งก็คือ “เลโก้” หรือแท่งพลาสติกสีสันต่างๆ ลักษณะเหมือนก้อนอิฐก้อนเล็กๆ ที่สามารถนำมาเสียบต่อกันเป็น “รูป” ต่างๆ ได้สารพัด นั่นเอง

เป็นบ้าน เป็นสวน สาธารณะ เป็นสถานีรถไฟ เป็นสนามเด็กเล่น เป็นหุ่นยนต์ เป็นยานอวกาศ หรือแม้แต่จะเป็นเมืองใหญ่ๆ ได้ทั้งเมือง

พ่อแม่ผู้ปกครองทุกคนต่างก็พอใจที่เด็กๆ ชอบเล่นต่อ “เลโก้” ขลุกอยู่เป็นชั่วโมง เพราะถือว่าเป็นการให้เด็กๆ ฝึกใช้สมอง และสร้างจินตนาการ รวมทั้งฝึกการเป็นคน ละเอียดอ่อน รู้จักอดทน ค่อยๆ ประดิดประดอยสร้างโน่นสร้างนี่อย่างไม่รีบร้อน

“เลโก้” จึงเป็นของเล่นเด็กที่ขายดีมากที่สุดด้วยเหตุนี้

ไม่เฉพาะข้างในบ้านเราเท่านั้น แม้ในทุกๆ ประเทศทั่วโลกก็จะขายดีเหมือนๆ กันหมด

นับเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่จากมันสมองของชาวเดนมาร์ก ที่ชื่อ โอเล เคิร์ก คริสเตียนเซน เมื่อกว่า 70 ปีก่อนโน้นโดยแท้

โอเล คริสเตียนเซน เริ่มผลิตและเปิดร้านจำหน่ายของเล่นที่ทำด้วยไม้ครั้งแรกที่เมือง บิลลุนด์ เมื่อปี 1932 หรือ พ.ศ.2475 ปีเปลี่ยนแปลงการปกครองในประเทศไทยพอดิบ พอดี

จนกระทั่งปี 1949 หรือ พ.ศ.2492 จึงหันมาประดิษฐ์สินค้าตัวต่อที่ทำด้วยไม้ และก็เปลี่ยนเป็นพลาสติกในช่วงต่อมา และเรียกมันว่า “เลโก้” ตั้งแต่ปี 1954 หรือ 2507

อันคำว่า “เลโก้” หรือ Lego ก็มิใช่คำประดิษฐ์คิดใหม่ในทางการตลาดอะไรที่ไหนเลย มาจากภาษาพื้นบ้านของเดนมาร์ก “leg godt” ที่แปลว่า “เล่นดี” หรือ “play well” นั่นเอง

อย่างเหลือเชื่อ เจ้า lego หรือเจ้า “เล่นดี” ได้กลายเป็นสินค้ายอดนิยมแพร่กระจายไปทั่วโลกในเวลาไม่นานนัก ทำให้ บริษัทเดนมาร์กบริษัทนี้ กลายเป็นผู้ผลิตสินค้าของเด็กเล่นที่มีรายได้สูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก

ไม่เพียงแต่มีโรงงานผลิตในเดนมาร์กเองเท่านั้น ในช่วงหลังๆ lego ยังไปสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนในต่างประเทศอีกหลายต่อหลายโรงงาน

ความก้าวหน้าและเป็นที่นิยมของเด็กๆ ทั่วโลกทำให้บริษัทแม่ของ Lego ตัดสินใจสร้าง LEGO LAND ขึ้นหลายๆ แห่งเพื่อเอาใจเด็กๆ

แห่งแรกเลยก็ที่เมืองบิลลุนด์ ประเทศ เดนมาร์ก ต้นกำเนิดของของเล่นเด็กชนิดนี้นั่นเอง

ต่อมาได้แก่ Legoland Windsor ที่ อังกฤษ, Legoland California ที่เมือง Carlsbad สหรัฐฯ, ลีโกแลนด์ ดอยช์แลนด์ ที่เยอรมนี รวมทั้ง Legoland Malaysia (สร้างปี 2012 ถือเป็นแห่งแรกของเอเชีย) และมีรายงานว่ากลุ่ม Lego มีแผนจะสร้างเลโกแลนด์อีกหลายแห่งในเอเชีย เช่น ที่ดูไบ, นาโกยา และเกาหลี เป็นต้น

สำหรับไทยเรายังไม่มีเลโกแลนด์ แต่เพิ่งจะมีการเปิดร้าน “สายตรง” ของ Lego เองแห่งแรกเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ที่ สยามพารากอน และก็เป็นที่มาของการจัดงาน “วันเด็ก” โชว์พลัง เลโก้อันยิ่งใหญ่ในวันเด็กแห่งชาติขึ้นดังกล่าว

น่าเสียดายที่การโชว์ Lego แบบไทยๆ จะอยู่ให้ดูที่แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอนเพียงวันนี้ (อาทิตย์ที่ 13 มกราคม) เท่านั้นเอง ใครที่ชอบเลโก้จะไปดูเองหรือจะชวนลูกๆ หลานๆ ไปดูด้วยก็ต้องรีบๆ หน่อยละไปให้ทันก่อนห้างปิด 4 ทุ่มก็แล้วกันครับ.

“ซูม”