ผมเรียนท่านผู้อ่านไว้แล้วเมื่อเร็วๆนี้ว่า ผมเติบโตมากับความสุขความสดชื่นและความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ ในยุคที่ประเทศไทยของเราคว้าตำแหน่งนางงามจักรวาลมาครองได้ถึง 2 ครั้ง 2 ครา ในอดีต

Credit Photo : Facebook Miss Universe Thailand

ได้มีโอกาสสัมผัสกับบรรยากาศแห่งความสุขและความปลาบปลื้มทั้งในครั้งที่ “คุณปุ๊ก” อาภัสรา หงสกุล คว้าตำแหน่งมาครองได้เป็นคนแรกเมื่อ ค.ศ.1965 หรือ พ.ศ.2508 และในครั้งที่ “คุณปุ๋ย” ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ขึ้นสวมมงกุฎ ในการประกวดที่ไต้หวัน เมื่อ ค.ศ.1988 หรือ พ.ศ.2531

สมัยนั้นเรายังใช้คำว่าได้มงกุฎ หรือสวมมงกุฎกันแบบเต็มๆ คำมิใช่ เรียกสั้นๆ ว่า “มง” หรือบางครั้งก็แผลงเป็น “มงลง” อย่างในปัจจุบัน

ยังจดจำความสุขของคนไทยทั้งประเทศใน 2 ยุค 2 สมัย มาได้จนถึงทุกวันนี้

ผมจึงนั่งลุ้นเอาใจช่วย “น้องนิ้ง” โศภิดา กาญจนรินทร์ อย่างเต็มที่ในฐานะที่เธอเป็นตัวแทนของประเทศไทย ในการประชันโฉมกับสาวงามอีก 93 ประเทศ ในการประกวดมิสยูนิเวิร์สปี 2018 ที่อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

อยากเห็นสาวไทยของเราคว้ามงกุฎมาครองอีกสักครั้งว่างั้นเถอะครับ เผื่อจะช่วยให้คนไทยเรามีความสุขกันอีกหน เพราะมองออกไปข้างหน้าแล้วนักวิเคราะห์หลายๆ คนบอกว่า โอกาสที่คนไทยเราจะต้องเผชิญกับความทุกข์มีมากเหลือเกิน

โดยเฉพาะความทุกข์ทางด้านเศรษฐกิจที่น่าห่วงที่สุด

ด้วยเหตุที่ว่าสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ยังมิได้เลิกราไป แม้จะมีการหยุดยั้ง หันหน้ามาเจรจากันอยู่ แต่ก็ยังไม่มีข้อตกลงที่ชัดเจนอะไรออกมามากนัก

ความหวาดหวั่นเรื่องการค้าโลกไปจนถึงเศรษฐกิจโลกที่จะถดถอยลง จึงยังไม่คลี่คลายลงไปแต่อย่างใด

ผมก็กลัวว่าจะมีผลกระทบมาถึงเรา ทำให้ประเทศไทยต้องพลอยเผชิญปัญหาทางเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองไปกับเขาด้วย

เกิดปัญหาการว่างงาน ตกงาน หรือรายได้ลดน้อยลงในการประกอบอาชีพต่างๆ

จึงอยากจะให้คนไทยมีความสุขและสะสมความสุขเอาไว้ให้มากที่สุดเผื่อเอาไว้หากจะต้องไปเผชิญกับความทุกข์ในทางเศรษฐกิจหรือในเรื่องอื่นใดที่จะเกิดขึ้นจะได้พอสู้ไหว

หากสาวไทยเราได้มงกุฎอีกสักครั้งน่าจะเป็นความสุขที่สามารถสะสมไว้ได้พอสมควรทีเดียว

ผมจึงตื่นขึ้นมาดู พีพีทีวี ถ่ายทอดสดการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ตั้งแต่เช้าตรู่ และนั่งลุ้นหน้าจออย่างใจจดใจจ่อ พร้อมทั้งพลอยส่งเสียงเฮดังลั่นไปด้วยเมื่อ “น้องนิ้ง” ของเราผ่านเข้ารอบ 20 คน และ 10 คนตามลำดับ

แต่ก็อย่างที่ทราบแหละครับว่าเธอมาถึงรอบ 10 คนแล้วก็หยุดเพียงเท่านั้น ไม่สามารถผ่านไปถึงรอบ 5 คน หรือลึกกว่านั้นได้

กลายเป็นว่าประเทศที่ช่วงชิงความสุขไปครองสำเร็จก็คือ ประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อนร่วมอาเซียนของเรานี่เอง เมื่อตำแหน่งนางงามจักรวาลปี 2018 ตกเป็นของนางสาว แคทรีโอนา เกรย์ ในที่สุด

ก็คงจะต้องยินดีกับเพื่อนๆ ชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งเขาก็มีปัญหาเหนื่อยยากไม่แพ้เรา ความสุขที่เขาได้รับครั้งนี้คงจะช่วยได้เยอะ

ในขณะที่ของเราถ้ามองในแง่ดีก็ถือว่าดีพอใช้ที่เข้ามาถึง 1 ใน 10 คงจะได้ความสุขมาบ้างล่ะน่า

อีกอย่างหนึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อนโน้น นางสาวพิชาภา ลิมศนุกาญจน์ ของเราก็ไปได้ตำแหน่งรองอันดับ 1 ของ “มิสเวิลด์” หรือ “นางงามโลก” คู่แข่งของมิสยูนิเวิร์ส แม้จะเป็นที่รู้จักน้อยกว่าหน่อย แต่ก็นับได้ว่าเป็นการประกวดชั้นแนวหน้าเหมือนกัน

เอาที่ 2 ของมิสเวิลด์มาบวกกับ 1 ใน 10 ของมิสยูนิเวิร์ส คงจะได้ความสุขสะสมพอสมควรละครับ

ได้แค่ไหนก็แค่นั้น…ปีหน้าค่อยลุ้นกันใหม่ คงมีสักวันล่ะน่าที่ “มง” นางงามจักรวาล (หรือนางงามโลกก็ได้) จะกลับมา “ลง” ศีรษะสาวไทยของเราอีกครา.

“ซูม”