จาก “ป้อม ดอยปุย” ถึง “คัทลียา…จ๊ะจ๋า”

ผมตั้งใจจะเขียนถึงคัทลียา นุดล ผู้ใช้นามปากกา “คัทลียา” เขียนข่าวสังคมในหน้าสตรีของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ภายใต้ชื่อ คอลัมน์ “คัทลียา จ๊ะจ๋า” มาตั้งแต่วันแรกที่ทราบข่าวว่าเธอจากพวกเราไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว

แต่ติดขัดที่อยู่ระหว่างการเล่าเรื่อง “ไอคอนสยาม” อภิมหาโปรเจกต์ 54,000 ล้านบาท เสียหลายวัน

เพิ่งจะมีโอกาสได้เขียนถึงเธอในวันนี้ หวังว่าคงจะไม่ช้าจนเกินไปนัก เพราะอย่างน้อยก็ยังทันที่จะบอกกล่าวแก่ญาติสนิทมิตรสหายและท่านที่เคยเป็นแฟนคลับติดตามอ่านคอลัมน์ “คัทลียา จ๊ะจ๋า” ได้ทราบว่า พิธีนมัสการไว้อาลัยเธอยังจะมีที่ คริสตจักรวัฒนา สุขุมวิท 19 อีก 1 คืน ในคืนนี้ (พฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน)

และจะมีพิธีฌาปนกิจศพ ณ วัดมกุฏกษัตริยาราม ในวันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายนนี้ เวลา 18.00 น.

คัทลียา หรือป้อม มาอยู่ไทยรัฐเมื่อ พ.ศ.2517 หลังผม 2 ปี เริ่มต้นชีวิตสื่อมวลชนด้วยการเป็นเลขานุการให้กับคอลัมน์ข่าวสังคมอยู่หลายปี ก่อนจะโยกไปทำข่าวบันเทิง ข่าวสตรี อีกพักใหญ่ๆ

ต่อมาหัวหน้ากองบรรณาธิการไทยรัฐยุคนั้น พี่ สมิต มานัสฤดี เห็นแววจากการทดสอบให้เขียนสารคดีเชิงข่าวหลายเรื่อง พบว่ามีสำนวนดี เขียนอ่านสนุก จึงเปิดคอลัมน์ประเภทชีวิตครอบครัว+ครองรักครองเรือน ให้เขียนในไทยรัฐฉบับพิเศษวันอาทิตย์

ยังจำได้เธอมาปรึกษาพวกเราว่าจะใช้นามปากกาอะไรดี ซึ่งผมนั่งอยู่ในกลุ่มที่เธอมาขอคำปรึกษาด้วย ก็เสนอว่าให้ใช้ชื่อ “ป้อม” นั่นแหละเป็นชื่อหน้า ส่วนนามสกุลเอาสัญลักษณ์ของเชียงใหม่ หรือของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่เธอจบมาก็แล้วกัน

ในที่สุดก็มาลงเอยที่ “ดอยปุย” ก่อกำเนิดนามปากกา “ป้อม ดอยปุย” ขึ้นในไทยรัฐฉบับวันอาทิตย์ เมื่อหลายๆ ปีก่อนโน้น

แล้ววันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ ป้อม ดอยปุย ต้องผันชีวิตตัวเองมาเป็นนักเขียนข่าวสังคมไฮโซ ที่ดังสนั่นไปทั่วประเทศ

ผมจำได้ว่าเป็นห้วงเวลาบ่ายๆ ของวันเสาร์ ที่ผมมักจะแวะเข้ามานั่งเขียนหนังสือในโรงพิมพ์ และระหว่างนั่งเขียนนั้นเอง ก็ได้รับโทรศัพท์จากเลขานุการหัวหน้ากองสมิตว่า ท่านอยากคุยด้วยด่วนจี๋…

พอผมเดินไปถึงห้องพี่สมิตก็เจอผู้ใหญ่ของโรงพิมพ์นั่งอยู่หลายคน มีพี่ มานิจ สุขสมจิตร และพี่ เวทย์ บูรณะ ร่วมอยู่ด้วย หน้าเครียดกันหมด

สรุปข้อใหญ่ใจความได้ว่า นักเขียนรุ่นพี่ของเราท่านหนึ่งที่รับผิดชอบในการเขียนข่าวสังคมซุบซิบ ได้ยื่นใบลาออกกะทันหัน

ด้วยสาเหตุที่ท่านเขียนอะไรบางอย่างที่เสี่ยงมาก พี่สมิตตัดสินใจยกข้อความออก ท่านก็เลยน้อยใจ ขอลาออก ณ บัดนั้นเลย

หน้าที่ของผู้เข้าประชุมวันนั้น ก็คือจะต้องหารือกันว่าควรจะเลือกใครมาเขียนแทนคนเก่าดี…พี่สมิตอยากได้คนใน เพราะมีอะไรจะได้พูดจาบอกกล่าวกันได้ไม่ยาก

ที่ประชุมลงมติเลือกป้อม ซึ่งมีผลงานจากการเขียนคอลัมน์ ป้อม ดอยปุย อยู่แล้ว และลงมติอีกข้อให้ทุกคนในห้องประชุมช่วยไปหาข่าวไฮโซคนละ 2-3 ข่าว มาให้ป้อมในช่วง 7 วันจากนี้ไป

พี่สมิตขอให้ใช้ชื่อจริงเป็นนามปากกาไปเลย และเปลี่ยนจากเดิมที่ใช้คำว่า “ซุบซิบ” เป็น “จ๊ะจ๋า” กลายเป็นคอลัมน์ “คัทลียา จ๊ะจ๋า” นับแต่นั้น

พวกเราช่วยกันหาข่าวไฮโซ (ซึ่งกว่าจะหาได้แทบแย่ เพราะส่วนใหญ่พวกเราก็โลโซกันทั้งนั้น) ไม่ถึง 7 วันด้วยซ้ำ เพราะจากนั้น ป้อมก็ออกหาเอง และเขียนเองติดลมฉลุยในทันที

น่าเสียดายที่ป้อมล้มป่วยด้วยโรคอัลไซเมอร์จนต้องหยุดเขียนหนังสือไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว และต่อมาก็มีเบาหวานซํ้าเติมจนต้องเวียนเข้าเวียนออกโรงพยาบาล หลายครั้ง โดยการดูแลอย่างใกล้ชิดของ คุณหญิงประณีตศิลป์ วัชรพล

แต่แล้วในที่สุดเธอก็ต้องจากไปในวัย 67 ปี ทิ้งไว้เพียงความทรงจำของ ผู้อ่านที่มีต่อเธอในฐานะคนเขียนคอลัมน์สังคม สำนวนหยิกแกมหยอกที่แสบๆ คันๆ อย่างหาใครเทียมทันได้ยากไปอีกนานแสนนาน

ขอให้ดวงวิญญาณของ “คัทลียา นุดล” อันเป็นที่รักของพวกเราทุกคนในไทยรัฐ และของท่านผู้อ่านไทยรัฐทั่วประเทศ จงเป็นสุขและสงบ ณ สัมปรายภพ ตราบกาลนิรันดร์.

“ซูม”