สักการะพระสหาย ร.5 ผู้มีพระคุณยิ่งต่อชาวสยาม

ผมเขียนต้นฉบับวันนี้ในช่วงสายๆของวันที่ 23 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันหยุด เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงของในหลวงรัชกาลที่ 5 “พระปิยมหาราช”

บนโต๊ะผมยังมีหนังสือคู่มือเดินทางเล่มเล็กๆ วางอยู่ข้างหน้า เป็นหนังสือที่จัดทำโดยบริษัท “ชัยทัวร์” ที่คณะของผมเลือกใช้บริการในการเดินทางไปเยือนรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมีข้อความบนแผ่นปกกำกับไว้ว่า “Russia…Land of the Tsars” หรือ “รัสเซีย ดินแดนแห่งพระเจ้าซาร์”

พลิกโปรแกรมออกดูพบว่าในวันแรกของการออกทัวร์ หลังจากเดินทางไปถึงเมือง เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เรียบร้อยแล้ว ได้แก่การแวะไปชม ป้อมปีเตอร์แอนด์พอล ซึ่งเป็นศูนย์กลางอำนาจของรัสเซียในอดีต เมื่อมาสร้างเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

ที่ป้อมแห่งนี้จะเป็นที่ตั้งของ โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ อันเป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์ในราชวงศ์โรมานอฟทุกพระองค์ รวมทั้ง พระเจ้าซาร์ นิโคลัสที่ 2 กษัตริย์องค์สุดท้ายของรัสเซีย

ผมใช้ปากกาสีระบายล่วงหน้าเอาไว้ตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง เพื่อเป็นการเตือนความทรงจำว่าเมื่อไปถึงโน่นแล้วจะต้องไม่พลาดโปรแกรมนี้

ในฐานะคนที่ชอบอ่านประวัติศาสตร์ไทยและยังจดจำเรื่องราวและเหตุการณ์ที่มีการบันทึกไว้ในยุคสมัยรัชกาลที่ 5 ตลอดจนคำบอกเล่าของผู้หลักผู้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี ทำให้ผมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของกษัตริย์รัสเซียพระองค์นี้อยู่เสมอ

แม้ในช่วงสุดท้ายท่านจะประกาศสละราชสมบัติและเสียชีวิตอย่างสามัญชน แต่ในทัศนะของผม ท่านยังทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งที่ผมจะไม่มีวันลืมพระมหากรุณาธิคุณตราบชั่วชีวิต

พระเจ้าซาร์ นิโคลัสที่ 2 ขณะดำรงตำแหน่งมกุฎราชกุมารรัสเซีย ได้เสด็จมาเยือนประเทศสยามในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นเวลา 5 วัน

ประทับที่ วังสราญรมย์ และเสด็จไปทอดพระเนตรการคล้องช้างที่อยุธยา รวมทั้งประทับที่พระราชวังบางปะอินอยู่คืนหนึ่ง

รัชกาลที่ 5 ทรงจัดพิธีต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ และทั้ง 2 พระองค์ก็กลายเป็นพระสหายที่สนิทสนมกันนับจากนั้น

ต่อมาภายหลังเมื่อรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสยุโรปก็ได้เสด็จฯ ไปรัสเซียและประทับที่ พระราชวัง Petrodvorets ซึ่งเป็นพระราชวังฤดูร้อนของกษัตริย์รัสเซีย ณ บริเวณริมฝั่งทะเลบอลติกอันงดงาม

เป็นที่ทราบกันแล้วว่าในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่นักล่าเมืองขึ้นกำลังเดินหน้าล่าเมืองขึ้นในเอเชียและตะวันออกไกล โดยเฉพาะฝรั่งเศสมายึดเวียดนาม ยึดกัมพูชา ยึดลาวไปแล้ว มีทีท่าว่าจะยึดไทยต่อ

แต่ด้วยพระบรมฉายาลักษณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ที่สมเด็จพระเจ้าซาร์ นิโคลัสที่ 2 ทรงฉายคู่กับรัชกาลที่ 5 ของเรา และมีเกร็ดประวัติศาสตร์รายงานว่า พระเจ้าซาร์มีรับสั่งให้นำขึ้นตีพิมพ์เป็นปกหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ L’ILLUSTRATION ในฝรั่งเศสและจำหน่ายไปทั่วยุโรป ดังที่เราคงจะเห็นภาพนี้กันอย่างคุ้นตาอยู่แล้ว

ว่ากันว่าภาพนี้เองที่ทำให้ฝรั่งเศสชะงัก และไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามกับสยาม เพราะมีความเกรงใจรัสเซียอยู่ไม่น้อย

เรื่องราวความประทับใจระหว่างรัชกาลที่ 5 กับราชวงศ์โรมานอฟ ยังมีอีกหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะในวันเลี้ยงส่งเสด็จที่พระราชวังริมฝั่งทะเลบอลติก ร.5 มีพระราชหัตถเลขาไว้ว่า “เอ็มเปรสส์” หรือพระมารดาของพระเจ้าซาร์ นิโคลัสที่ 2 ถึงกับกันแสงและตรัสว่า “เราเป็นแม่ลูกกัน” พร้อมทั้งเอียงพระปรางให้ ร.5 ทรงจูบอำลา

แม้ในบั้นปลายพระเจ้าซาร์ นิโคลัสที่ 2 จะสิ้นพระชนม์อย่างสามัญชน หลังเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรัสเซีย แต่เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปจนระบอบคอมมิวนิสต์ล่มสลาย ก็ได้มีการอัญเชิญพระศพมาฝัง ณ โบสถ์อันเป็นที่ฝังพระบรมศพของกษัตริย์รัสเซียอย่างสมพระเกียรติ

ผมและเพื่อนๆ มีโอกาสไปยืนแสดงความเคารพที่หน้าสถานที่ฝังพระศพภายในโบสถ์เซนต์ปีเตอร์เมื่อประมาณ 15.00 น. วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ตามเวลารัสเซีย

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระเจ้าซาร์ นิโคลัสที่ 2 และด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ 5 ที่ผมเชื่อเสมอว่าที่เราเป็น “ไท” มิใช่ “ทาส” มาได้ตราบเท่าทุกวันนี้ เพราะพระบารมีของทั้ง 2 พระองค์.

“ซูม”