ผมได้ยินชื่อ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล มานานพอสมควรตั้งแต่ท่านยังดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวและมีผลงานในด้านจับทัวร์ศูนย์เหรียญ จนเป็นข่าวมาหลายครั้ง

บางหนก็ไปขึ้นหน้า 1 ในกรณีจับกุมนายทุนเงินกู้นอกระบบ จนผมอดสงสัยไม่ได้ว่าท่านเป็นตำรวจท่องเที่ยวไปข้องเกี่ยวอะไรกับเงินกู้นอกระบบกับเขาด้วยล่ะ

ซึ่งก็ได้รับคำชี้แจงจากพรรคพวกที่ทราบเรื่องดีว่า เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายในการปราบปรามนายทุนเงินกู้นอกระบบอย่างจริงจัง และมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ดำเนินการ ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจึงได้แต่งตั้งนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่จากหลายๆ หน่วยให้รับผิดชอบ แบ่งกันหลายพื้นที่

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ได้รับมอบหมายให้ดูแลทางภาคอีสาน เมื่อมีคดีเกิดขึ้น จึงไปจับกุมนายทุนเงินกู้ที่ภาคอีสาน เป็นข่าวหน้า 1 ดังกล่าว

ล่าสุดท่านได้รับการแต่งตั้งให้มารักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือ ผบช.สตม. ก็เป็นข่าวหน้า 1 อีกเช่นกัน

เริ่มตั้งแต่มีข่าวว่าท่านนำป้ายภาษาอังกฤษและภาษาจีนที่มีความหมายว่าห้ามนักท่องเที่ยวจ่ายเงินอะไรเป็นพิเศษแก่เจ้าหน้าที่ สตม. ในกรณีที่จะมาทำวีซ่าเข้าเมือง เมื่อเดินทางมาถึงที่สนามบินหลักทั้ง 2 แห่ง

โดยเฉพาะภาษาอังกฤษนั้นใช้คำว่า “NO TIPPING” ซึ่งแปลว่าห้ามให้ทิปหรือเงินพิเศษนั่นเอง

ก็มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ที่เห็นด้วยมักจะบอกว่าดีแล้วต้องบอกให้นักเที่ยวรู้ตัวไว้ว่า ตม.ไทยเราไม่รับเงินอะไรเป็นพิเศษนะ ไม่ต้องจ่ายเด็ดขาด

แต่ที่ไม่เห็นด้วยก็วิจารณ์ว่าจะเป็นการโจ๋งครึ่มไปหรือเปล่าที่ขึ้นป้ายแบบนั้น แสดงว่าเมื่อก่อนคงมี Tip ล่ะซี ยุคนี้ถึงต้องยกป้ายห้าม

สำหรับผมไม่ติดใจอะไร ถือว่าการบอกกล่าวให้รู้ไว้น่าจะเป็นประโยชน์ทั้งแก่นักท่องเที่ยวและเป็นเครื่องเตือนใจตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของเราเองด้วยว่าอย่าไปรับทิปใครเขา

ยังมีอีกครับข่าวเกี่ยวกับผลงานใหม่ของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ตั้งแต่มาอยู่ ตม. เซ่นสั่งย้ายตำรวจระดับผู้กำกับและรองสารวัตรฯ 2 รายเพราะสงสัยว่าจะมีส่วนในการช่วยให้คนต่างด้าวและผู้ลักลอบเข้าเมืองจำนวนหนึ่งเข้าเมืองหรืออยู่เมืองไทยโดยผิดกฎหมาย ซึ่งข่าวว่ามีการกระทำอย่างเป็นขบวนการเลยทีเดียว

ต่อมาก็ท่านอีกแหละครับ ที่สั่งคนให้ไปตรวจสอบ “คอนโดหรู” ที่ร้องเรียนเรื่อง “พระตีระฆัง” โดยอ้างว่าลูกค้าต่างประเทศที่มาเช่าคอนโดอยู่จะเลิกเช่า

เหตุเพราะตามกฎหมายนั้น คอนโดไหนจะให้คนต่างด้าวเช่า จำต้องแจ้ง ตม.ท้องที่ ไม่แจ้งถือว่าผิด ผลปรากฏว่าลงไปตรวจสอบแล้วมีหลายห้องที่ไม่แจ้งจึงถูกปรับไปตามระเบียบ

ส่วนชาวต่างประเทศนั้นแรกๆ มีข่าวว่าเข้าเมืองอย่างถูกกฎหมาย และแจ้งที่อยู่ตรงกับที่แจ้ง ตม.ไว้ แต่ต่อมามีข่าวคืบหน้าเพิ่มเติมว่าไปเจอชาวเกาหลีหนีคดีฉ้อโกงมาหลบซ่อนอยู่ในประเทศไทยถึง 6 ปี เข้ารายหนึ่ง จึงจับกุมตัวและเตรียมส่งกลับประเทศเกาหลีต่อไป

ที่ผมสรุปผลงานของท่านมาเสียยืดยาวเสมือนลอกข่าวมาอีกครั้งหนึ่ง ก็เพื่อจะยืนยันว่าผมติดตามผลงานของท่านมาตลอด และออกจะชื่นชมความเอาจริงเอาจัง ความซื่อสัตย์สุจริต ความมุ่งมั่นในการทำงาน สมกับเป็นผู้รักษากฎหมายในอุดมคติที่ผมอยากเห็น

สมัยนี้คำว่า “ไอดอล” หรือ “ผู้เป็นแบบอย่างที่ดี” เป็นคำฮิต มีการหยิบมาใช้อย่างแพร่หลาย ผิดบ้างถูกบ้างเพราะบางครั้งเอาไปใช้ในกรณีของผู้ที่ไม่สมควรจะเป็นตัวอย่างแต่อย่างใดเลย

แต่สำหรับกรณี พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผมยกให้เป็น “ตำรวจไอดอล” เลยครับ เพราะผลงานที่เป็นข่าวข้างต้นนี้ สมควรเป็นแบบอย่างแก่ตำรวจรุ่นใหม่ๆทั้งสิ้น

ผมดีใจที่ท่านเอาจริงเอาจังกับเรื่องการลักลอบเข้าเมือง หรือการเข้ามาอยู่ในเมืองไทยอย่างผิดกฎหมาย อันล้นทะลักในขณะนี้

ที่เข้ามาได้ก็เพราะความหย่อนยานของผู้รักษากฎหมายทั้งนั้นที่มีข่าวว่าทำกันเป็นขบวนการนั่นแหละ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล จะปราบไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะงานนี้ใหญ่ยักษ์เหลือเกิน

แต่ก็เอาเถอะก็ลองดู ไม้ซีกที่แข็งแกร่งจริง อาจงัดไม้ซุงกระเด็นก็เป็นได้ ผมขอให้กำลังใจ “ตำรวจไอดอล” ท่านนี้เต็มที่เลยครับ.

“ซูม”