เป็นอันว่าการแข่งขันรอบแรกของฟุตบอลโลก 2018 หรือบอลโลกรัสเซียก็จบรอบแรกไปเรียบร้อย 2 กลุ่ม นับถึงเช้าตรู่วันอังคารที่ 26 มิถุนายน

นั่นก็คือกลุ่ม A กับกลุ่ม B ซึ่ง ณ บัดนาวได้ทีมเข้ารอบกลุ่มละ 2 ทีม ตามกฎกติกา พร้อมจะประกบคู่เตะกันต่อ ในรอบ 16 ทีม ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

credit : https://twitter.com/fifaworldcup

กลุ่ม A อุรุกวัย จอมโหด เอาชนะ รัสเซีย เจ้าภาพ ไปแบบสบายเท้า 3-0 ได้เข้ารอบเป็นที่ 1 ด้วยคะแนนเต็ม 9 คะแนน ในขณะที่รัสเซียเจ้าภาพผู้แพ้ได้ 6 คะแนน เข้ารอบเป็นที่ 2

สำหรับ ซาอุดีอาระเบีย เอาชนะอียิปต์ได้ 2-1 แม้จะตกรอบเพราะได้แค่ 3 คะแนน แต่ก็ถือว่าตกอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่บ๊วยว่างั้นเถอะ ปล่อยให้ อียิปต์ ซึ่งมีดาวดังอย่าง โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ซึ่งได้ 0 แต้ม เป็นทีมบ๊วยของกลุ่มไปตามระเบียบ

อย่างไรก็ตาม ซาลาห์ก็ได้ออกมากล่าวขอโทษแฟนๆ “มัมมี่” เป็นที่เรียบร้อยที่ทำให้แฟนๆผิดหวัง พร้อมกับให้สัญญาว่าอีก 4 ปีข้างหน้า “I shall return” ข้าพเจ้าจะกลับมา!

สำหรับกลุ่มนี้คงไม่มีข้อสังเกตหรือหมายเหตุอะไรมากนัก แม้คู่ รัสเซีย-อุรุกวัย จะออกมาอย่างผิดคาด เนื่องจากเจ้าภาพรัสเซียแพ้เยอะไปหน่อย แต่ก็นั่นแหละ ต้องยอมรับว่าแมตช์นี้จอมโหดเขาเล่นดีจริงๆ ทั้งแม่นยำทั้งเฉียบคม โดยเฉพาะ “เดอะเหยิน” หลุยส์ ซัวเรซ เหมาะทุกประการที่จะคว้าตำแหน่ง “แมนออฟเดอะแมตช์” ไปครอง

ความมันส์ยกร่องไปอยู่ที่กลุ่ม B ตอนตีหนึ่งโน่นละครับ ดราม่า, เอ็กไซต์, ไคลแมกซ์ ครบเครื่องตามสไตล์ฟุตบอลโลกรัสเซียอีกครั้ง

credit : https://twitter.com/fifaworldcup

เริ่มจากคู่ “กระทิงดุ” สเปน กับ โมร็อกโก ที่ใครๆ ก็นึกว่ากระทิงจะเป็นฝ่ายไล่ขวิดกระจุยแน่ๆ ที่ไหนได้กลายเป็น โมร็อกโก ขึ้นนำก่อนถึง 2 ครั้ง และกระทิงดุต้องเป็นฝ่ายไล่ตามตีเสมอแบบน้ำลายเหนียวคอทั้ง 2 ครั้ง 2 ครา

แถมลูก 2 โดนในนาที 81 ใกล้หมดเวลา ต้องออกแรงบดชนิดไม่หายใจหายคอ มาทำได้สำเร็จเป็น 2-2 ในนาที 90+1 เข้าไปแล้ว

กระนั้นก็ต้องรอ VAR มาโปรด ผู้ตัดสินเข้าไปดูอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะกลับคำตัดสินที่บอกว่า ออฟไซด์ตอนแรก เป็นให้ประตูแก่สเปน เกือบกลายเป็นกระทิงเขาหักแล้วไหมล่ะ!

credit : https://twitter.com/fifaworldcup

อีกคู่ ระหว่าง “ฝอยทอง” โปรตุเกส กับ อิหร่าน ก็ดราม่าพอๆ กัน นึกว่าสบายเพราะฝอยทองขึ้นนำ 1-0 ในนาที สุดท้ายของครึ่งแรก และพอเริ่มครึ่งหลังหน่อยเดียวก็มาได้จุดโทษอีก เห็นชัดว่าต้องนำ 2-0 แน่ๆ เพราะมือเพชฌฆาต ไม่ใช่ใครที่ไหนคือ “เดอะโด้” คนดังคับโลกนั่นเอง

แต่สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง คนดัง อย่างโด้ก็มีวันดับได้เหมือนกัน ดันยิงติดเซฟ อาลี เรซา เบรานวานต์ นายทวาร อิหร่านซะงั้น

นาทีที่ 90+1 ก็เกิดดราม่าอีกจนได้ เมื่อผู้ตัดสินดู VAR มองว่า เซคริน โซอาเรส ของฝอยทอง ทำแฮนด์บอล ตัดสินให้อิหร่านได้ยิงลูกโทษ

คาริม อันซาริฟาร์ด ซัดไม่เหลือ ตีเสมอเป็น 1-1 และเกือบจะเอาชนะได้ในนาทีสุดท้ายด้วยซ้ำ หลังจากเป็นฝ่ายบุกแหลกเข้าใส่ฝอยทองอย่างชนิดรัวปืนกล แต่ในที่สุดก็จบแค่ 1-1 ส่งผลให้ฝอยทองรอดตายไปอย่างหวุดหวิด

สรุป สเปน จบที่ 5 แต้มเท่า โปรตุเกส แต่ประตูได้ดีกว่าจึงเป็นที่ 1 และฝอยทองเป็นที่ 2 ในขณะที่ อิหร่าน ได้ 4 แต้ม ร่วงก็จริง แต่สมศักดิ์ศรีตัวแทนเอเชียจบเป็นที่ 3 โดยมี โมร็อกโก ได้แต้มบ๊วยสุดของกลุ่มนี้

ดังนั้น ในรอบ 16 ทีมข้างหน้าที่ 1 กลุ่ม A อันได้แก่ อุรุกวัย จะไปเจอที่ 2 กลุ่ม B อันได้แก่ฝอยทอง โปรตุเกส ในวันเสาร์ที่ 30 มิ.ย. เวลา 01.00 น.

ส่วนที่ 2 กลุ่ม A อันได้แก่ รัสเซีย เจ้าภาพ จะไปเจอกับที่ 1 กลุ่ม B กระทิงดุ สเปน ในเวลา 3 ทุ่ม วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม

สูดปากรอได้เลยขอรับ พ่อแม่พี่น้อง.

“จ่าแฉ่ง”