อินทรีเหล็กตายยาก!

สุดดราม่า สุดเอ็กไซต์ และสุดไคลแมกซ์อย่างชนิดบรรยายแทบ ไม่ถูกเลยครับ สำหรับชัยชนะของ “อินทรีเหล็ก” เมื่อเวลาใกล้ตี 3 ของเช้าตรู่วันอาทิตย์ 24 มิถุนายน ตามเวลาประเทศไทย

เยอรมัน 2 สวีเดน 1 คือ สกอร์ล่าสุดของฟุตบอลโลกคู่เอกที่เตะกันมาครบ 10 วัน พอดิบพอดี

แต่กว่าจะลงเอยที่จุดนี้นักเตะเยอรมันซึ่งแพ้จังโก้มาก่อนในเกมแรก และต้องการชัยชนะอย่างยิ่งยวดเพื่อโอกาสในการเข้ารอบต้องออกแรงอย่างหนัก และผจญชะตากรรมอย่างหนักตลอดระยะเวลาถึง 94 นาทีเศษ ก่อนจะพบกับชัยชนะที่ปรารถนา

ในนาทีที่ 32 เยอรมันเป็นฝ่ายเสียประตูก่อน ทั้งๆที่เป็นฝ่ายบุกอย่างหนัก จากการยิงลูกโต้กลับของ โอลา ตอยโวเนน อย่างสุดสวย โดนทำไป 1-0

มาแก้คืนได้หลังลงเล่นครึ่งหลังเพียง 3 นาที จากการซัดเผาขนของ มาร์โค รอยส์ เป็น 1-1

หลังจากนั้นทีมอินทรีเหล็กก็บดแหลกแต่ฉิวเฉียดไปมาขาดนิดเกินหน่อย และบางลูกก็ต้องยกให้นายทวารสวีเดน โรบิน เอลเซน ที่รับลูกเหนียวหนึบยิ่งกว่าตุ๊กแก

ซัดไปถึง 17 ลูก เข้ากรอบ 5 ลูก แต่ยังไม่ได้ประตูขึ้นนำจนแล้วจนรอด

แถมซ้ำร้าย นาทีที่ 82 พญาอินทรีกลับต้องสูญเสีย เจอโรม บัวเต็ง ที่เจอเหลืองใบที่สองกลายเป็นแดง ต้องออกจากสนาม เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน

โอกาสชนะยากขึ้นอีกหลายเท่า เพราะมี 11 คนยังทำอะไรไม่ได้…เหลือ 10 คน จะเอาอะไรมาทำ

แต่อินทรีเหล็กยังคงเป็นอินทรีเหล็กและพิสูจน์ให้เห็นธาตุแท้ของความเป็นพญาอินทรีด้วยการโหมบุกอย่างต่อเนื่อง

จนถึงนาทีทดเจ็บที่ 4 หรือนาทีที่ 94 ทีมเยอรมันได้โทษทางด้านขวากรอบโทษ และ โทนี โครส ก็ซัดเข้าประตูไปได้อย่างสุดโสภาสถาพร

ใครยังไม่ได้ดูคลิปลูกนี้โปรดหาดูโดยด่วนและก็หาไม่ยากเพราะแชร์กันว่อนโซเชียลไปแล้วในขณะนี้

ส่งผลให้เยอรมันเป็นฝ่ายชนะ 2-1 เก็บได้ 3 แต้ม และมีโอกาสเข้ารอบ 2 สูงมากในการเจอกับด่านสุดท้าย เกาหลีใต้ ในวันพุธที่ 27 มิถุนายน

สื่อหลายฉบับพาดหัวว่า “นักเตะเยอรมันโกงตาย” หรือไม่ก็ “เอาตัวรอดจากความตายมาได้” รวมทั้งสื่อของเยอรมันเอง

แต่สำหรับ โยอาคิม เลิฟ กุนซืออินทรีเหล็ก เขายกชัยชนะทั้งหมดให้แก่ความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว และความพยายามอันสุดยอดของนักเตะของเขาทั้งทีม

“พวกเขามีสมาธิที่ยอดเยี่ยมไม่เสียขวัญไม่หวั่นไหว แม้สถานการณ์จะเลวร้ายขนาดไหน…พวกเขาไม่แตกตื่น ตกใจ แม้ในนาทีที่เราเสียประตูก่อน และไม่เคยที่จะรู้สึกสิ้นหวัง”

“การได้ประตูในช่วงทดเจ็บมันอาจมีโชคช่วยอยู่บ้าง แต่เหนืออื่นใดมันเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่านักเตะของผมเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่นในตัวเอง”

สำหรับ โทนี โครส ประตูชัยลูกนี้มิใช่เพียงประตูชุบชีวิตเยอรมันให้รอดจากความตายและเสี่ยงต่อการตกรอบแรกเท่านั้น แต่ยังเป็นประตูประวัติศาสตร์ของทีมชาติเยอรมันอีกด้วย

นี่คือการทำประตูที่ใช้เวลามากที่สุดในการแข่งขันฟุตบอลโลกของเยอรมัน (สถิติออกมาแล้ว 94 นาที 42 วินาที) ที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนถ้าไม่นับการทำประตูในช่วงต่อเวลา!

“จ่าแฉ่ง” ยอมรับว่าเป็นบุญตาจริงๆที่ได้ดูประตูชัยประตูนี้สดๆด้วยตาตัวเอง ต้องขอปรบมือดังๆ ให้แก่โทนี โครส อีกครั้งหนึ่ง

นี่แหละพญาอินทรีที่ตายยาก และเมื่อติดปีกกลับมาได้แบบนี้ละก็…โอกาสเดินหน้าไปสู่การป้องกันแชมป์ หรืออาจจะได้ครองแชมป์อีกครั้ง กลับมาสูงมากๆ อีกแล้ว สมราคาและสมฉายา “อินทรีเหล็ก” จริงจริ๊ง พับผ่าเถอะ!

ส่วนคู่อื่นๆในวันเดียวกัน เบลเยียม ต้อนตูนิเซีย ไป 5-2 ลอยลำเข้ารอบไปอย่างสบายๆในกลุ่มจี

เม็กซิโก ชนะเกาหลีใต้ 2-1 ขึ้นเป็น 6 แต้ม จ่อเข้ารอบค่อนข้างสูงในกลุ่มเอฟ

แต่ต้องระวังอย่าแพ้ สวีเดน ในนัดสุดท้ายก็แล้วกัน เดี๋ยวจะต้องมานับลูกได้เสียกับ สวีเดน และอาจจะเป็น เยอรมัน ด้วยว่าใครจะเข้ารอบ

เพราะเผลอๆ อาจได้ 6 แต้มทั้ง 3 ทีม จะมีดราม่า มีเอ็กไซต์ หรือจะมีไคลแมกซ์อะไรเกิดขึ้นอีกหรือไม่? ขอให้ติดตามกันต่อไป…อย่าเผลอกะพริบตาก็แล้วกัน.

“จ่าแฉ่ง”