อะแมนคอลด์ “โรนัลโด”

บอกแล้วไงครับว่า ฟุตบอลโลกน่ะ วันแรกๆ อาจจะจืดชืดบ้างก็เป็นของธรรมดา เพราะเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในรอบ 4 ปี ทำให้ทีมที่ลงประเดิมสนามจะรู้สึกเกร็งๆ เล่นไม่ค่อยเต็มสูบ

ขอให้รอดูการเตะในวันต่อๆ ไป รับรองจะมันส์หยดติ๋งขึ้นเรื่อยๆ

ฟุตบอลโลกฉบับรัสเซียก็เช่นกันครับ เปิดสนามวันแรกฟุตบอลค่อนข้างห่างชั้น เจ้าบ้านรัสเซียเอาชนะซาอุดีอาระเบีย ทีมเต็งบ๊วยไปอย่างงั้นๆ แม้รัสเซียจะโชว์ฟอร์มแจ่มทำประตูได้ถึง 5 ประตู แต่ก็ไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไรนัก

credit : https://twitter.com/fifaworldcup

พอมาถึงวันที่สองของการแข่งขันเท่านั้นเอง ความมันส์สุดๆ ที่แฟนๆ รอคอยก็มาถึง

คู่หัวคํ่า อียิปต์–อุรุกวัย ถือว่าพอเรียกนํ้าย่อยได้ เพราะทีมมัมมี่แม้จะไม่มี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ซึ่งมานั่งเป็นตัวสำรองเฉยๆ) แต่ก็สู้สุดใจเล่นเอาจอมโหด อุรุกวัย ทำอะไรไม่ได้ จนถึงนาทีที่ 89 มาได้ลูกเตะมุมช่วยรักษาหน้าจอมโหดเอาไว้ได้ 1-0 ก่อนหมดเวลาอย่างฉิวเฉียด

คู่ที่ 2 เริ่ม 4 ทุ่ม อาจจะเนือยหน่อยระหว่าง โมร็อกโก กับ อิหร่าน แต่ก็มาสนุกตอนท้ายๆ เมื่ออิหร่านพลิกล็อกเอาชนะได้ 1-0 เช่นกันในช่วงทดเจ็บไปแล้วถึง 4 นาที บอลพลิกล็อกเนี่ยยังไงๆ ก็ถือว่าสนุกอยู่แล้วละ

มาสนุกเต็มที่และสุดๆ ในคู่ส่งท้ายคืนวันศุกร์ ตอนตี 1 เป๊ะ ระหว่าง 2 มหาอำนาจลูกหนัง โปรตุเกส เต็ง 8 กับ สเปน เต็ง 3 นั่นเอง

ใครไม่ได้ดูสดโปรดหาเทปมาดูโดยด่วน อภิมหามันส์เลยครับ ในทรรศนะของ “จ่าแฉ่ง” และขอโหวตให้เป็น 1 ใน 10 คู่ ยอดเยี่ยมตลอดกาลของฟุตบอลโลกเท่าที่ “จ่าแฉ่ง” ดูมาเลยทีเดียว

คิดดูเหอะเสมอกัน 3-3 แสดงว่าต้องมีการยิงประตูกันถึง 6 ลูก แปลว่าแฟนๆ ได้เฮสุดเหวี่ยงกันถึง 6 ครั้งในเกมนี้

credit : https://twitter.com/fifaworldcup

แฟนฝอยทองได้เฮก่อนเมื่อได้ลูกโทษที่จุดโทษในนาทีที่ 4 และก็เป็น “เดอะโด้” คริสเตียโน โรนัลโด เป็นผู้สังหารแบบตุงไม่เหลือซาก

แต่แล้วนาทีที่ 24 แฟนกระทิงดุก็ได้เฮบ้าง จากการซัดสุดสวยในกรอบประตูของ ดีเอโก คอสตา ตีเสมอเป็น 1-1

ครั้นมาถึงนาทีที่ 44 แฟนฝอยทองก็กระโดดตัวลอยได้เฮอีกครั้ง จากการซัดลูกเต็มข้อของ “เดอะโด้” คนเดิม แม้ ดาบิด เด เคอา จะไปถึงลูกแต่ความแรงของการเตะก็ทำให้ประตูพุ่งเข้าสู่ตาข่ายจนได้

จบครึ่งแรกโปรตุเกสขึ้นนำ 2-1

พอเริ่มครึ่งหลังขุนพลกระทิงดุภายใต้การกำกับของโค้ชคนใหม่ เฟอร์นานโด เอียโร ไม่มีอาการท้อแท้เลยแม้จะโดนนำ กลับเดินหน้าบุกกระหน่ำโชว์ฟอร์ม “ติกิ ตากา” ติ๊กต๊อกส่งลูกกันอย่างคล่องแคล่ว

จากนั้นก็ซัดตีเสมอ 2-2 ด้วยฝีเท้าของดีเอโก คอสตา อีกลูกในนาทีที่ 55 และอีกเพียง 3นาทีต่อมา กระทิงดุ ก็ขึ้นนำ 3-2 จากการซัลโวสุดโสภาของ นาโซ เฟร์นานเดซ

โมเมนตัมกลับมาเป็นของกระทิงดุอีกครั้งและเริ่มมองเห็นชัยชนะรออยู่แค่เอื้อม

แต่…ดราม่ายังไม่จบครับ เมื่อฝอยทองมาได้ลูกโทษระยะ 20 หลา นอกเขตโทษเล็กน้อย “เดอะโด้” รับหน้าที่เพชฌฆาตเช่นเคย และนี่เองที่ทำให้เห็นคุณค่าของโทรทัศน์ในระบบ HD ที่ภาพคมชัดแจ่มแจ๋วกว่าระบบอนาล็อกในยุคก่อน

ทำให้เราเห็นสีหน้าและแววตาของเพชฌฆาต “โด้” อย่างชัดยิ่งกว่าชัด

เราเห็นเขาจ้องเขม็งไปที่ลูกบอลที่กำแพง…

เราเห็นเขาขบกรามเล็กน้อยจนนูนเป็นสัน

แล้วเราก็เห็นเขาขยับหน้าแข้งที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ วิ่งเข้าซัดลูกโทษ 20 หลา ข้ามกำแพงมุดลงมุมขวาของประตูอย่างงดงามสุดบรรยายได้

ถ้าต้องใช้สำนวนของ “โกวเล้ง” นี่คือกระบวนท่า “กระบี่เดียวปลิดวิญญาณ” โดยแท้

เพราะเปรี้ยงเดียวของเดอะโด้ ทำให้ฝอยทองตีเสมอได้อย่างชนิดปลิดวิญญาณกองเชียร์กระทิงดุทั้งสนามอย่างไรอย่างนั้น

“จ่าแฉ่ง” ถึงยกให้เป็น 1 ใน 10 คู่สุดมันตลอดกาลของบอลโลกเท่าที่เคยดูมา

ไม่ใช่จ่าแฉ่งคนเดียวนะครับ แม้แต่ แกรี ลินิเกอร์ อดีตนักเตะดังอังกฤษที่มาเป็นนักวิเคราะห์เกมให้ BBC ก็ยกนิ้วให้ว่า… “นี่คือเกมเวิลด์คัพที่ดีที่สุดที่ผมเคยดูโดยเฉพาะในรอบแบ่งกลุ่ม”

สำหรับ คริสเตียโน โรนัลโด นี่คือแฮตทริกครั้งที่ 51 ในชีวิตการเล่น ทั้งสโมสรและทีมชาติ และ 3 ประตูของคืนนี้ทำให้เขาซัลโวให้ทีมชาติไปแล้ว 84 ประตู

นายแน่มากว่ะโด้ และถ้านายพร้อมด้วยทีมฝอยทองของนายเล่นได้แบบนี้…เราว่าโอกาสที่นายจะยกฐานะจากแชมป์ยูโรเป็นแชมป์โลกก็มีอยู่เยอะเหมือนกันนา.

“จ่าแฉ่ง”