แด่แก้วประการที่สาม ด้วยความเคารพจากใจ

ผมก็คงคล้ายๆกับพุทธศาสนิกชนจำนวนมากที่เกิดความรู้สึกเศร้าหมองและหดหู่ใจ เมื่อได้อ่านข่าวหนังสือพิมพ์หรือดูข่าวโทรทัศน์ ในกรณีจับกุมพระสงฆ์หลายรูปในคดี “เงินทอน” เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ส่วนกรณีจับกุมพระสงฆ์อีกรูปหนึ่งในข้อหาอั้งยี่ หรือซ่องโจรอะไรนั้น ผมรู้สึกเฉยๆ เพราะได้ติดตามข่าวคราวของท่านมาตลอด มีความรู้สึกมานานแล้วว่าท่านเป็นพระที่ไม่ใช่พระแต่อย่างใดเลย

ต่างกับในกรณี “เงินทอน” หรือการนำเงินบำรุงวัด หรืออื่นใดของวัด ไปใช้ในทางมิชอบ…เพราะล้วนเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ทั้งสิ้น

พระเถระบางรูปนั้นผมก็เคยกราบไหว้ เคยฟังท่านเทศนามาบ้างแล้วด้วยซ้ำ จู่ๆมาอ่านข่าวพบว่าท่านตกเป็นผู้ต้องหากรณีเงินทอนวัดก้อนใหญ่เข้าด้วย จะไม่ให้ผมเกิดความเศร้าหมองได้อย่างไร

แต่ก็ด้วยความเป็นพุทธศาสนิกชนที่ติดตามอ่านติดตามศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์อยู่เสมอนั่นแหละครับ ที่ทำให้ผมตั้งสติได้ และในที่สุดก็ทำใจได้

ยุติความผิดหวัง ยุติความเศร้าหมองลงได้ในที่สุด

เพราะเท่าที่ติดตามอ่านรายละเอียดของข่าว แม้เรื่องจะยังไม่ขึ้นสู่ศาล และศาลยังมิได้ตัดสิน แต่พฤติกรรมและการกระทำต่างๆของผู้ทรงศีลที่ตกเป็นผู้ต้องหาดูจะไม่ถูกต้อง และไม่เป็นไปตามหลักแห่งศีลหรือธรรมที่ผู้ทรงศีลทั้งหลายพึงปฏิบัติ

การที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดี จึงเป็นเรื่องที่ถูกต้อง มิใช่เป็นการทำให้ศาสนาเสื่อม หรือมัวหมองแต่อย่างใดทั้งสิ้น ในทางตรงข้ามกลับเป็นการช่วยขจัดบุคคลที่เข้ามาแอบแฝงอาศัยพระศาสนา เพื่อทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องออกไปเสีย

อันจะเป็นผลให้พระศาสนาที่บริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่แล้ว ผุดผ่องยิ่งขึ้นไปเสียอีกด้วยซ้ำ

ในหลักของพระพุทธศาสนานั้น “พระรัตนตรัย” หรือแก้วอันประเสริฐ 3 ประการ ล้วนมีความสำคัญอย่างยิ่ง

แก้วประการที่หนึ่ง “พระพุทธองค์” ได้ทรงตรัสรู้จนค้นพบแก้วประการที่สอง “พระธรรม” อันยิ่งใหญ่และมีคุณค่ามหาศาลต่อการดำรงชีวิตของมวลมนุษยชาติ

ในขณะที่แก้วประการที่สามอันได้แก่ “พระสงฆ์” ก็คือแกนหลักในการเผยแผ่พระธรรมคำสอนให้เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง รวมทั้งสืบทอดให้คำสอนของพระพุทธองค์ อยู่ยั้งยืนยงไปตราบนานเท่านาน

ประเด็นที่น่าห่วงใย ก็มีอยู่ว่าแก้วประการที่ 3 นั้น ยังมีตัวตนและเป็นมนุษย์ปุถุชนอยู่ จึงยังมีโอกาสที่จะเกิดความโลภ ความหลง และเกิดสารพัดกิเลสตัณหาขึ้นได้ตลอดเวลา

ซึ่งถ้าเกิดขึ้นเสียแล้วก็จะทำให้ผู้คนเสื่อมศรัทธา เสื่อมความเลื่อมใส ไม่ยอมรับฟังคำสั่งสอนที่แม้จะดีงามเพียงใดก็ตาม

พระพุทธองค์ทรงตระหนักในประเด็นนี้มาตั้งแต่ต้น จึงทรงบัญญัติศีล หรือข้อห้ามไว้ถึง 227 ข้อ เพื่อให้ดวงแก้วดวงที่ 3 ยึดมั่นและปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

ต่อมาในทางโลกหรือฝ่ายบ้านเมือง ก็เข้ามาช่วยดูแลและควบคุมอีกทางหนึ่ง มีการออกกฎหมาย วางกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆของการเป็นสงฆ์ เพื่อป้องกันมิให้มิจฉาชีพ หรือผู้ไม่ประสงค์ดีต่อพุทธศาสนา แอบแฝงเข้ามาเป็นแก้วดวงที่ 3 เพื่อประโยชน์แห่งตน

ตลอดเวลาที่ผ่านมา 2,561 ปี มีดวงแก้วที่มัวหมองแตกร้าว ไม่สมกับการเป็นดวงแก้วอันประเสริฐเกิดขึ้นมาโดยตลอด แต่ก็ถูกขจัดปัดเป่าออกไปเป็นระยะๆ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ก็คล้ายๆกับที่เคยเกิดขึ้นในอดีต สืบเนื่องมาจากดวงแก้วที่ยังเป็นปุถุชน ยังตัดกิเลสไม่ขาด นำมาซึ่งความหมองหม่นเป็นส่วนตน

เมื่อขจัดปัดเป่าออกไปเสียก็จะเหลือแต่ดวงแก้วประการที่ 3 ที่งดงามและทรงคุณค่าเท่านั้น อันจะเป็นผลให้พระพุทธศาสนาซึ่งประกอบด้วยพระธรรมที่ผ่านการตรัสรู้ของพระพุทธองค์อยู่ยั้งยืนยงสืบไป

คิดเสียได้อย่างนี้ก็ต้องกล่าวคำว่าสาธุ! ที่สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาดำเนินการในครั้งนี้

เพียงแต่ดวงแก้วหลายๆดวงค่อนข้างเป็นดวงใหญ่ จึงสะเทือนใจหน่อย และต้องใช้เวลาอยู่พอสมควรว่างั้นเถอะครับกว่าจะตั้งสติได้.

“ซูม”