เหตุที่ผมชอบ “อันวาร์” และไม่ (ค่อย) ชอบ “มหาธีร์”

ผมขออนุญาตเขียนถึงการเมืองเรื่องเลือกตั้งที่มาเลเซียต่อนะครับวันนี้ เพราะยังรู้สึกดีใจไม่หายกับการกลับมาของคุณอันวาร์ อิบราฮิม อดีตรองนายกรัฐมนตรี

ขณะที่ผมเขียนต้นฉบับวันนี้ มีรายงานข่าวว่า ท่านนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด ได้เข้าเฝ้าพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย และออกมาแถลงข่าวว่า พระราชาธิบดีทรงพร้อมที่จะพระราชทานอภัยโทษให้แก่คุณอันวาร์ อิบราฮิม โดยเร็วที่สุด

ซึ่งจะเป็นการอภัยโทษแบบสูงสุด เพราะจะทำให้เขาพ้นจากข้อห้ามการกลับมาเข้าสู่วงการเมืองภายใน 5 ปี หลังจากพ้นโทษจำคุกไปด้วย

อันมีความหมายว่า คุณอันวาร์พร้อมจะขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศมาเลเซียได้เลย ทันทีที่มหาธีร์ลงจากตำแหน่งเมื่อครบ 2 ปี ตามที่ประกาศไว้

ผมตั้งชื่อเรื่องวันนี้ว่า “เหตุที่ผมชอบอันวาร์…และไม่ (ค่อย) ชอบมหาธีร์” นั้น มาจากความรู้สึกลึกๆในใจของผมเป็นการส่วนตัวมานานแล้วครับ

ข้อแรกเลยที่ผมรู้สึกชอบท่านรองนายกฯ อันวาร์ เพราะเคยได้ยินจากปากเพื่อนๆที่เป็นศิษย์เก่า โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย ว่าอันวาร์เป็นคนนิสัยดี น่าคบ และมีความเข้าใจคนไทย

ท่านเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนมัธยม “มาเลย์คอลเลจ” ที่สมัยโน้นมีการแข่งขันรักบี้ประเพณีกับโรงเรียนวชิราวุธฯเป็นประจำ เข้าใจว่าท่านอันวาร์คงเป็นนักรักบี้จึงมาแข่งในเมืองไทยบ่อยๆ จนเป็นที่รู้จักของนักเรียนวชิราวุธรุ่นโน้นอย่างดียิ่ง

เนื่องจากเป็นความทรงจำที่ยาวนานมาก ผมเองก็อายุมากพอสมควร อาจจะจำคลาดเคลื่อนไปได้ ฉะนั้น หากความทรงจำของผมในเรื่องนี้ผิดเพี้ยนไป ขอท่านผู้รู้โปรดช่วยท้วงติงมาด้วยนะครับ

ผมค่อนข้างเชื่อมั่นว่าใครก็ตามที่มาคบกับคนไทยจนถึงขั้นเป็นเพื่อนกับคนไทยแล้ว จะรักและชอบอุปนิสัยคนไทยเราแทบทุกคนไป

เหมือนอย่างท่านอดีตนายกรัฐมนตรีคนแรกของมาเลเซีย ตนกู อับดุล ราห์มัน ที่มีคุณแม่เป็นคนไทยและตอนเด็กๆ เคยมาอยู่เมืองไทยมาเรียนหนังสือที่โรงเรียนเทพศิรินทร์จนเป็นเพื่อนกับคนไทยหลายๆคน

ตนกู อับดุล ราห์มัน ได้ชื่อว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่เข้าใจประเทศไทยมากที่สุด และว่ากันว่าในยุคสมัยของท่านเหตุการณ์ที่ 3 จังหวัดภาคใต้ของเราสงบสุขเป็นที่สุด

ผมก็แอบหวังลมๆแล้งๆของผมว่า คุณอันวาร์ซึ่งมีเพื่อนเป็นคนไทย น่าจะเข้าใจประเทศไทย และคนไทยมากกว่านายกรัฐมนตรีมาเลเซียท่านอื่นๆ จึงน่าจะเป็นผลดีกับสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ไม่มากก็น้อย

ประกอบกับท่านก็เป็นคนเก่ง ถึงขั้นได้รับการวางตัวให้เป็นทายาททางการเมืองของ มหาธีร์ คั่วตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปในยุคโน้น

แต่ในที่สุดก็เข้าตำราภาษิตไทยที่ว่า “จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย… ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน”…เด่นเกินไปจนโดนมหาธีร์เชือด ต้องไปติดคุกติดตะรางในข้อหารักร่วมเพศซะหลายปีในรอบแรก

รอบ 2 ในยุคท่าน นาจิบ ราซัค โดนอีกระลอก ต้องกลายเป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านในคุก แต่จะพ้นโทษเดือนมิถุนายนนี้ และหากได้รับพระราชทานอภัยโทษก็จะบริสุทธิ์ผุดผ่องทุกอย่าง พร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปได้ทุกเมื่อ

ผมจึงรู้สึกดีใจเป็นพิเศษ และได้กราบเรียนท่านผู้อ่านตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าท่านจะได้กลับมา

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่า ท่านมหาธีร์จะรักษาคำมั่นสัญญาแค่ไหน? ที่บอกว่า 2 ปีข้าพเจ้าจะพอ แล้วก็ให้สมาชิกสภาเลือกคุณอันวาร์มาเป็นนายกฯแทนนั้น…ท่านมหาธีร์จะผิดสัญญาเรอะเปล่า

ทีนี้ก็มาถึงในท่อนหลังของชื่อเรื่องที่ผมบอกว่า “ผมไม่ (ค่อย) ชอบท่านมหาธีร์” ทั้งๆที่ท่านก็เป็นคนเก่งคนดีคนซื่อสัตย์สุจริตคนหนึ่ง ในฐานะมนุษย์ร่วมโลกผมควรจะชอบท่าน

แต่ไม่รู้ซี…ผมมีความหลังอะไรบางอย่างที่ฝังใจอยู่กับท่านพอสมควร…จนทำให้ต้องใช้คำว่า “ไม่ค่อยชอบ” ซึ่งแปลว่า “ชอบ” อยู่เหมือนกัน เพียงแต่ไม่ชอบแบบเต็มสตรีม หรือชอบสุดหัวใจเท่านั้นแหละ

ขอต่อพรุ่งนี้อีกสักวันก็แล้วกันครับ.

“ซูม”