ฟุตบอล “คิงส์คัพ” ฟุตบอลคู่ประเทศไทย

ถ้าจะพูดถึงการแข่งขันฟุตบอลรายการเก่าแก่ต่อเนื่องยาวนานของประเทศไทย นอกจากฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ–ธรรมศาสตร์แล้ว ก็เห็นจะเป็นฟุตบอล “คิงส์คัพ” นี่แหละครับ ที่จัดการแข่งขันติดต่อกันมานาน จนกลายเป็นรายการเก่าแก่อันดับที่ 2 ของประเทศ

อาจจะมีฟุตบอล “ควีนส์คัพ” อีกรายการหนึ่งที่ก็เก่าแก่มาก แต่ช่วงหลังๆไม่ค่อยมีข่าวคราวการจัด ผมก็เลยไม่แน่ใจว่าจะยังมีการจัดอยู่หรือไม่

ตรงข้ามกับฟุตบอลคิงส์คัพ ซึ่งแม้จะไม่โด่งดังใหญ่โตเป็นที่กล่าวขวัญของประชาชนทั่วประเทศ และเป็นที่รอคอยของคนไทยส่วนใหญ่เหมือนในอดีต แต่ก็ยังมีการจัดอย่างสม่ำเสมอทุกๆปี

ทำให้ฟุตบอลคิงส์คัพยังคงยืนหยัดและอยู่ยั้งยืนยงเป็นรายการฟุตบอลคู่ประเทศไทยมาตราบเท่าทุกวันนี้

“ฟุตบอลคิงส์คัพ” หรือฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 เริ่มขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2511 โดย พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ ยมนาค นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ใน พ.ศ.ดังกล่าว

ยุคนั้นเป็นยุคที่ฟุตบอลเริ่มเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางขึ้นในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้กีฬาฟุตบอลได้รับการบรรจุอยู่ในการแข่งขันกีฬาระดับภูมิภาคนี้ ไม่ว่าจะเป็น เซียพเกมส์ (ต่อมาคือซีเกมส์) หรือ เอเชียนเกมส์ ก็ตาม

นอกจากนี้ ยังมีการจัดที่เป็นทัวร์นาเมนต์ประจำปี ด้วยการเชิญฟุตบอลทีมชาติในย่านเอเชียมาแข่งขันกัน ที่โด่งดังมากในหลายๆประเทศ

โดยเฉพาะฟุตบอล เมอร์เดก้าคัพ ฉลองเอกราชของมาเลเซีย ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ระดับชาติ ที่ได้รับความนิยมสูงสุดและเก่าแก่สุดในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ต่อมาก็มีฟุตบอล เพรสิเด้นท์คัพ ทั้งของอินโดนีเซียและของเกาหลีใต้ ขึ้นมาแข่งรัศมี รวมทั้ง ฟุตบอลคิงส์คัพ ของไทยเราตามมา

แต่ก็นับว่าฟุตบอลคิงส์คัพของเราประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว เพราะการจัดครั้งแรกในพ.ศ.2511 มีทีมดังในเอเชียมาแข่งหลายทีม และทีมอินโดนีเซีย สามารถคว้าถ้วยพระราชทานไปครองได้เป็นทีมแรก

การแข่งขันในแต่ละนัด มีผู้คนไปดูชมแน่นขนัดเต็มสนามศุภชลาศัย ซึ่งในยุคดังกล่าว บางส่วนยังเป็นอัฒจันทร์ไม้ ถึงขนาดอัฒจันทร์พังครืนจากคลื่นมหาชนในนัดสำคัญๆ

โดยเฉพาะนัดไทยเจอพม่า เป็นนัดประวัติศาสตร์ที่ผู้คนแน่นที่สุดและชุลมุนที่สุด (มีการขว้างระเบิดขวดระหว่างการแข่งขัน)

ฟุตบอลคิงส์คัพและฟุตบอลชิงถ้วยระดับชาติต่างๆ นำความสุขและความสนุกมาสู่ชาวเอเชียและชาวไทยอยู่ได้พักใหญ่ แต่ในที่สุดทางฟีฟ่าก็ออกกฎไม่ให้มีการจัดการแข่งขันแบบทัวร์นาเมนต์ระดับทีมชาติในแต่ละประเทศ ให้จัดได้ในระดับทวีปและบอลโลก ซึ่งฟีฟ่าหรือสมาพันธ์ฟุตบอลระดับทวีปภายใต้ฟีฟ่าจัดเองเท่านั้น

ส่งผลให้ฟุตบอลชิงถ้วยสำคัญๆแบบเชิญทีมชาติมาแข่งหลายๆทีมของแต่ละประเทศต้องยกเลิกไป เหลือการแข่งขันเพียง 4 ทีม และมีลักษณะเป็นการอุ่นเครื่องกลายๆ

ความกร่อยจึงเกิดขึ้น แม้แต่ฟุตบอลเมอร์เดก้าที่เคยโด่งดังก็แฟบสนิท ในขณะที่ “คิงส์คัพ” ของเราแม้จะยังอยู่ แต่ก็ลดความสนุกลงไป

จนกระทั่งในช่วงหลังๆ เมื่อทีมที่มาแข่งเป็นทีมที่มีชื่อเสียงและเป็นของจริงจากทวีปต่างๆ และทุกทีมชาติที่มาแข่งต่างก็สู้กันเต็มที่ ความสนุกจึงกลับคืนมาอีกครั้ง

สำหรับปีนี้ฟุตบอลคิงส์คัพจะจัดขึ้น ในวันที่ 22-25 มีนาคม ซึ่งจะเป็นครั้งที่ 46 ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยมี 4 ทีมเข้าแข่งขันได้แก่ สโลวะเกีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, กาบอง และ ทีมชาติไทย

จะมีการถ่ายทอดสดให้ชมโดย ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ครบทุกคู่

โปรดอย่าลืมติดตามดูชมกันด้วยนะครับ.

“จ่าแฉ่ง”