รีวิว…เที่ยวเชียงราย ยลเมืองเชียงของ (ตอนที่ 1)

“เชียงของ” เป็นชื่อของอำเภอเล็กๆ ของจังหวัดเชียงราย ซึ่งมีพื้นที่บางส่วนติดแม่น้ำโขง แต่ก่อนที่นี่นั้นขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งพักผ่อนชั้นดีของนักเดินทางแนวแบ็กแพ็กเกอร์ เพราะมีความสงบ ยังไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายระดับ 

เชียงของ จึงเป็นหนึ่งในดินแดนที่แอดมินมีโอกาสไปเยือนเพียง 1-2 ครั้งเท่านั้นเอง เนื่องจากส่วนใหญ่เวลาไปเที่ยวทางภาคเหนือก็มักจะนึกถึงเชียงใหม่ หรือไม่ก็เที่ยวในตัวอำเภอเมืองเชียงราย แล้วไปช้อปปิ้งที่ตลาดแม่สาย

วัดห้วยปลากั้ง

สำหรับทริปสู่เมืองเชียงของครั้งนี้ นับเป็นโอกาสดีที่นำพาแอดมินไปเปิดหูเปิดตาชมความเป็นไปของเมืองเชียงของอีกครั้ง ในยุคที่เชียงของเปิดบ้านเชื่อมต่อเศรษฐกิจกับ สปป.ลาว ด้วยสะพานมิตรภาพ 4 (เชียงของ-ห้วยทราย) ผ่านโครงข่ายถนน R3A กับกิจกรรมที่มีชื่อว่า “เที่ยวข้ามภาค เชิงธรรมชาติ ศาสนาและวัฒนธรรม” จัดโดยความร่วมมือระหว่าง โรงแรมฟอร์จูนริเวอร์วิวเชียงของ สายการบินแอร์เอเชีย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดย อ.คฑา ชินบัญชร ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวัฒนธรรมและศาสนา

วัดห้วยปลากั้ง

การเดินทางไปเชียงของนั้น เราโดยสารเครื่องบินของสายการบินไทยแอร์เอเชีย ในช่วงเช้าตรู่ ไปถึงสนามบินแม่ฟ้าหลวงตอนสายๆ จากนั้นก็ได้ไปทานอาหารร้อนๆ ที่ร้าน “สหรส” ซึ่งอยู่ใกล้ๆ หอนาฬิกา ในตัวเมืองเชียงราย ร้านนี้ขายเกาเหลาเลือดหมู ที่มีจุดเด่นตรงที่ใส่จิงจูไฉ่ ที่ทางร้านปลูกเองค่ะ

วัดห้วยปลากั้ง

ทานอิ่มแล้วก็ได้เดินทางไปยัง วัดห้วยปลากั้ง ซึ่งอยู่ที่ตำบลแม่ยาว อำเภอเมืองเชียงรายนี่แหละค่ะ วัดนี้แอดมินมีโอกาสมาเที่ยวชมครั้งหนึ่งแล้วกับไทยเบฟเวอเรจ ที่มาจัดโครงการแจกผ้าห่ม ตอนนั้นองค์เจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ ได้แวะชมเพียง “พบโชคธรรมเจดีย์” เจดีย์ 9 ชั้นเท่านั้น กลับมาคราวนี้องค์เจ้าแม่กวนอิมจัดสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ จึงได้ขึ้นลิฟต์ขึ้นไปชมความงามภายในองค์เจ้าแม่

วัดห้วยปลากั้ง

โดยมีค่าตั๋วขึ้นลิฟต์คนไทยคนละ 20 บาท คนต่างชาติ 40 บาท ลิฟต์พาเราขึ้นไปชมบารมีภายในองค์เจ้าแม่กวนอิม ซึ่งมีความงดงาม อลังการมากค่ะ เนื่องจากมีภาพประติมากรรมบนฝาผนังด้านในเจ้าแม่กวนอิม ที่ชั้น 25 และ 26 ให้พวกเราเดินชมอย่างเพลิดเพลิน

ต่อมาทางผู้จัดงานได้พาเราไปทานอาหารเที่ยงที่ร้าน “เฮือนฮิมดอย” ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอแม่สายค่ะ ที่นี่มีลักษณะเป็นเรือนสองชั้น มีพนักงานแต่งชุดท้องถิ่นคอยต้อนรับผู้มาเยือน อาหารแนะนำของที่นี่ได้แก่ ออเดิร์ฟเมือง แกงฮังเล น้ำพริกอ่องผักสด ลาบหมู รวมทั้งแปลงสตรอว์เบอร์รี่ให้ไปเดินชมด้วยนะคะ

ร้านเฮือนฮิมดอย

ทานอิ่มแล้ว พวกเราก็ได้แวะไปเที่ยวตลาดแม่สายต่อ ที่นี่มีสินค้าแฟชั่นอย่างกระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า ให้เลือกซื้อหลายร้านละลานตาค่ะ ทีมที่แอดมินเกาะติดไปด้วยก็ได้กระเป๋ากันมาคนละใบ แล้วพอข้ามกลับมาฝั่งไทยก็ได้ซื้อสตรอว์เบอร์รี่สด ใหม่ ที่แม่ค้าบอกว่านำมาจากไร่ที่ทางตนไปส่งเสริมการปลูกเอาไว้ ราคาที่ขายจึงค่อนข้างถูกกว่าร้านที่พวกเราเดินผ่านมา ใครไปตลาดแม่สาย ลองมองหาแผงสตรอว์เบอร์รี่ที่ตั้งอยู่ทางขวามือ ตรงทางเข้าลานจอดรถดูนะคะ

ตกเย็นพวกเราก็มุ่งหน้าสู่อำเภอเชียงของ ซึ่งจากอำเภอแม่สายนั้นถนนกำลังก่อสร้าง จึงใช้เวลาไปพอสมควร เมื่อมาถึงวัดท่าข้ามศรีดอนชัย ฟ้าก็มืดพอดี มาถึงที่นี่พวกเราก็ได้อิ่มท้อง อิ่มใจกับการต้อนรับที่อบอุ่นของชาวศรีดอนชัย ซึ่งเป็นชุมชนชาวไทยลื้อ โดยมี นายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ รอพบพวกเราอยู่แล้วเพื่อจะบอกเล่าเกี่ยวกับศักยภาพของการท่องเที่ยวในอำเภอเชียงของ

แต่ก่อนนั้น พวกเราก็ได้ทานอาหารพื้นบ้านแบบบุฟเฟ่ต์ที่ใช้ขันโตกแทนจาน เราเลยสนุกกับการหยิบอาหารใส่โตก และอิ่มอร่อยท่ามกลางอากาศเย็นๆ รวมทั้งการแสดงของเยาวชนที่ทางวัดเล่าว่าได้มีโครงการวัดกับชุมชน ที่ส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามาใช้พื้นที่ภายในวัดทำกิจกรรมและส่งเสริมการท่องเที่ยว

ที่โดดเด่นสะดุดตามากในงานนี้ก็เห็นจะเป็นเสื้อผ้าของชาวชุมชนไทยลื้อที่นี่ค่ะ พวกเขาทอเองและมีจำหน่ายด้วยนะคะ เสียดายที่โปรแกรมเร่งรีบไปหน่อย เลยไม่มีโอกาสไปชมการทอผ้า ส่วนผ้าทอนั้นก็มีน้องๆ นำมาให้ชม มีตัดเป็นผ้าถุง เสื้อ ราคาหลักพันตามงานฝีมือเลยค่ะ

จากนั้นก็เป็นคิวของท่านนายอำเภอทัศนัย ที่มาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเชียงของให้เราฟัง พร้อมทั้งอาสาว่าวันรุ่งขึ้นจะขอนำชมสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ ของอำเภอเชียงของ เราจึงเข้าที่พักที่ “โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว เชียงของ” เพื่อที่วันพรุ่งจะได้มีแรงตะลอนกันต่อ.

นายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ

“แอดมินม่อน”