ท่านที่ติดตามคอลัมน์ซอกแซกมานานพอสมควร คงจะทราบดีแล้วว่า ทีมงานซอกแซกเป็นแฟนคลับของ “ท่านมุ้ย” ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล อย่างเหนียวแน่นมาโดยตลอด

ทุกครั้งที่หนังของท่านออกโรงฉาย ไม่ว่าหนังฟอร์มใหญ่หรือฟอร์มเล็ก…ที่นี่จะตามไปดูและเก็บมาเขียนบอกกล่าวด้วยความชื่นชมเสมอมา

นับตั้งแต่ “มันมากับความมืด” หนังเรื่องแรกของท่าน มาจนถึง “เขาชื่อกานต์” หนังเล็กๆ แต่โด่งดังไปทั้งประเทศ ในยุคแรกๆ ของท่านเมื่อ 30 กว่าปีก่อนโน้น

ต่อมาเมื่อท่านหันมาสร้างหนังฟอร์มใหญ่อิงประวัติศาสตร์ชาติไทย เริ่มจาก “สุริโยไท” เมื่อ 10 ปีก่อน ที่นี่ก็ดูแล้วดูอีกไม่ต่ำกว่า 3 หน

ทุกวันนี้ยังเก็บเพลงบรรเลง “ซาวนด์แทรค” ของสุริโยไทเอาไว้อย่างทะนุถนอม และจะนำมาเปิดฟังเสมอในยามว่าง

ครั้นเมื่อท่านลงมือสร้าง “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” …ที่นี่ก็ติดตามไปดูทั้ง 2 ภาค พร้อมทั้งกลับมาเขียนแสดงความชื่นชมเต็มคอลัมน์ ด้วยความประทับใจ

โดยเฉพาะภาค 2…ยังจำฉากสุดท้าย “พระแสง ปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง” และฉากระเบิดสะพาน เพื่อสกัดการไล่ล่าของกองทัพพม่าได้จนถึงบัดนี้

ด้วยเหตุฉะนี้จึงไม่รีรอเลยที่จะทำตัวเองให้ว่างเพื่อเบียดเสียดเพื่อนๆสื่อมวลชนและแขกรับเชิญรวมแล้วเกือบ 4,000 คน เข้าไปนั่งดูในการเปิดฉายรอบพิเศษ สำหรับภาค 3–ตอน “ยุทธนาวี” เมื่อค่ำวันจันทร์ที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ โรงภาพยนตร์ต่างๆนับ 10 โรงของพารากอน ซีนีเพล็กซ์ สยามพารากอน

คงต้องบอกว่า เพราะความโด่งดังของภาพยนตร์เรื่องนี้ใน 2 ภาคแรก ทำให้ผู้ที่ได้รับเชิญไปมากกว่าที่คาดไว้ และก็คงต้องบอกว่า หัวหน้าทีมซอกแซกไม่ค่อยมีโอกาสไปดูหนังในโรงหนังขนาดใหญ่ ที่มีโรงเล็กๆ หลายโรงซับซ้อนอย่างสยามพารากอน…จึงเดินหาโรงที่เขาจัดไว้ให้ดูเสียจนแทบหมดแรง

แต่ในที่สุดก็หาเจอ และได้ดูสมใจหมาย…รวมทั้งได้ข้อคิดความเห็นต่างๆ มาฝากท่านผู้อ่านในวันนี้หลายหน้ากระดาษดังเคย

ก่อนอื่นก็คงต้องปรบมือกราวใหญ่ให้ท่านมุ้ย ที่ยังคงรักษามาตรฐานของท่านเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน

ในแง่ของความ “อลังการงานสร้าง” นั้นไม่มีอะไรเป็นรองภาค 1 และภาค 2 แม้แต่น้อยนิด

ฉาก “ยุทธนาวี” ซึ่งจำลองมาจากประวัติศาสตร์ ตอนสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทำสงครามทางเรือกับพระยาจีนจันตุ ทำได้อย่างยอดเยี่ยมเสมือนจริง

พระยาจีนจันตุอยู่บนเรือสำเภาลำใหญ่ ในขณะที่สมเด็จพระนเรศวรและทหารเอกของท่านอยู่ในเรือเร็วลำเล็กแบบเรือในขบวนแห่พยุหยาตราทางชลมารค…ยิงตอบโต้ไปมาทั้งปืนใหญ่และปืนเล็ก ก่อนที่ชัยชนะโดยเด็ดขาดจะเป็นของพระองค์

อีกฉากคือ ศึกทุ่งบางแก้ว…ฉากการรบที่ตื่นตาตื่นใจใช้ผู้คนนับหมื่น ประจัญบานทั้งบนหลังช้างและหลังม้า ซึ่งแน่นอนชัยชนะย่อมเป็นของฝ่ายไทยตามประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้

ภาพยนตร์จบลงด้วยการทิ้งท้ายว่า ศึกใหญ่ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและกรุงศรีอยุธยายังไม่จบสิ้น เพราะกษัตริย์แห่งหงสาวดียังทรงจองเวรสยามประเทศต่อไป

นั่นแปลว่า เราคงจะต้องดูภาค 4 เพื่อติดตามเหตุการณ์สำคัญที่สุดเหตุการณ์หนึ่งของประวัติศาสตร์ …นั่นก็คือ “สงครามยุทธหัตถี” ระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กับพระมหาอุปราชา แห่งกรุงหงสาวดี ที่เราร่ำเรียนกันมาตั้งแต่เด็กๆ

จะต้องรออีกสักกี่ปี…กว่าจะได้ดูภาค 4

และฉากสำคัญที่ว่านี้ คำตอบก็คงอยู่ที่ท่านมุ้ยนั่นแหละครับ

กล่าวโดยสรุป…หัวหน้าทีมซอกแซกยังคงให้คะแนนค่อนข้างสูง สำหรับภาคนี้ทัดเทียมกับ 2 ภาคแรก

แต่สำหรับลูกทีมที่ไปด้วยโดยเฉพาะกลุ่มวัยหนุ่มบอกว่า ขอหักคะแนนลงบ้างเล็กน้อยสำหรับการสอดแทรกเหตุการณ์นอกประวัติศาสตร์ที่ดูจะมีมากกว่าทุกๆ ตอน

แม้จะเข้าใจดีว่าท่านแทรกลงไปเพื่อสีสันและความสนุกของหนัง แต่หากมองอีกมุมหนึ่งก็เสมือนว่าเป็นการตั้งใจจะให้หนังยาวขึ้น ซึ่งถ้าจะตัดออกเสียบ้างก็จะไม่ทำให้เสียอรรถรสแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมกลุ่มย่อยของทีมงานซอกแซก ยังคงมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า “พระนเรศวรฯภาค 3” เป็นภาพยนตร์ที่คุ้มค่าแก่การดูชม และสมกับเป็น “ภาพยนตร์ของชาติ” ดังที่มีผู้ยกย่องไว้

ดูแล้วเกิดความรักชาติ เกิดความภูมิใจในความเป็นไทย…รู้ว่าเราเป็นชาติที่มีความเป็นมาอย่างยิ่งใหญ่และชัดเจน…สมควรที่จะรักษาไว้ตลอดไป

ก่อนภาพยนตร์จะเริ่มฉายเขาขึ้นสไลด์บอก กล่าวเอาไว้ว่า สำหรับผู้ที่จะดูชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในรอบปกติ โปรดเก็บรักษา “ตั๋ว” ของท่านเอาไว้ด้วย เพราะตั๋วใช้แล้วที่ว่านี้ จะมีมูลค่าใช้เป็นส่วนลดได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการไปดูชมสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ภาคต่างๆในบริเวณค่ายสุรสีห์ จังหวัดกาญจนบุรี

ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ ตลอดทั้งเดือนเมษายนนี้ (รวมทั้งวันนี้ ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ด้วย) จะมีการเปิดโรงถ่ายให้ดูชม พร้อมจัดการแสดงและการละเล่น ตลอดจนเป็นขายอาหารพื้นเมืองกว่า 40 ร้าน และสินค้าที่เป็นศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านอีกหลายร้าน

ใครอยากเห็นเรือสำเภาของพระยาจีนจันตุ อยากเห็นชุมชนตลาดมอญวัดนก อยากเห็นบรรยากาศย่านนายก่าย โรงชำเราชาย อยากเห็นตัวเมืองกรุงศรีอยุธยา และ ฯลฯ แวะไปที่ค่ายสุรสีห์ จังหวัดกาญจนบุรี ได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ของเดือนเมษายน โดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์ 9-17 เมษายน จะมีการออกร้านและการแสดงต่างๆดังที่แจ้งไว้

จึงขอย้ำว่า พ่อแม่ผู้ปกครองทั้งหลายที่พาลูกหลานไปดูชม “ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ภาค 3” โปรดเก็บบัตรใช้แล้วของท่านไว้ด้วย

สำหรับพกติดตัวเพื่อชวนลูกหลานชุดเดิมของท่านไปดูโรงถ่ายที่เมืองกาญจน์ และถือโอกาสเที่ยวพักผ่อนที่เมืองกาญจน์เสียด้วยเลย.

“ซูม”